สหรัฐเตรียมเพิ่มพันธกิจต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐจะเพิ่มกิจกรรมทางทหารในออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป
ในงานแถลงข่าวร่วมภายหลังการประชุมระหว่างปธน.โอบามาและนายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลีย ผู้นำทั้งสองประเทศกล่าวว่า สหรัฐและออสเตรเลียได้เห็นชอบในการเพิ่มกิจกรรมร่วมทางทหารเพื่อส่งเสริมพันธมิตรระหว่างทั้งสองประเทศ
นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป สหรัฐจะเพิ่มกิจกรรมทางทหารในประเทศออสเตรเลีย โดยนาวิกโยธินสหรัฐจำนวน 250 นายจะเข้าประจำการและฝึกอบรมในนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรี ของออสเตรเลีย
จากนั้น กองกำลังสหรัฐ พร้อมยานพาหนะ เรือรบ และเครื่องบิน จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 นายภายในปี 2557 และเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 นายภายในปี 2559 นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีต่อจากนี้ เครื่องบินรบสหรัฐหลายลำจะเข้าประจำการที่ฐานทัพทินเดลในนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรี เพื่อการทำการฝึกและซ้อมรบ
"สหรัฐไม่มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งกว่าออสเตรเลีย ด้วยคุณค่าและสิทธิที่เสมอเหมือนกัน" โอบามากล่าว พร้อมระบุว่า การเดินทางเยือนออสเตรเลียของตนในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความชัดเจนว่าสหรัฐได้เพิ่มพันธกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้านนางกิลลาร์ดกล่าวว่า การเพิ่มกองกำลังสหรัฐเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
"นับเป็นผลดีต่อกองกำลังป้องกันของออสเตรเลียในการเพิ่มศักยภาพ ด้วยการร่วมฝึกกับนาวิกโยธินและเจ้าหน้าที่สหรัฐ นั่นหมายความว่า เรา ตลอดจนพันธมิตรอื่นๆในเอเชียแปซิฟิก จะร่วมกันรับมือกับภาวะฉุกเฉินของภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติทางธรรมชาติ" นางกิลลาร์ดกล่าวเสริม
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งฐานทัพถาวรของสหรัฐในออสเตรเลีย โดยปัจจุบัน สหรัฐมีทหารประมาณ 300 นายประจำการในออสเตรเลียเป็นระยะเวลา 2-3 ปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมทวิภาคีนั้น ผู้นำของทั้งสองประเทศยังได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก, อนาคตของพลังงานสะอาดสำหรับทั้งสองประเทศและทั่วโลก และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่กำลังจะมีขึ้น
ประธานาธิบดีโอบามาได้เดินทางถึงกรุงแคนเบอร์ราในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยมีกำหนดจะเดินทางไปเยือนอนุสรณ์สงคราม, ร่วมประชุมกับรัฐสภาออสเตรเลียในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนเมืองดาร์วิน ในนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรี หลังจากนั้นนายโอบามามีกำหนดเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้