สถาบันอาหาร แนะตั้ง"ศูนย์กลางข้อมูลด้านอาหาร"แก้ปัญหาขาดแคลนในภาวะวิกฤติ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 17, 2011 10:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีปัญหาสินค้าอาหารหลายรายการขาดแคลนในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และลุกลามไปถึงในต่างจังหวัดบางแห่งช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการประกาศอนุญาตให้นำเข้าน้ำดื่มบรรจุขวด ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง อาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์นม และสินค้าพื้นฐานอีกหลายรายการ เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนและผลทางจิตวิทยาให้กับประชาชน เป็นบทเรียนที่ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีระบบบริหารจัดการด้านความมั่นคงทางอาหารที่ยังไม่เรียบร้อยเพียงพอ

การที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรเกษตรอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีโรงงานอุตสาหกรรมอาหารกระจายอยู่ทั่วประเทศรวมแล้วมากกว่า 8,000 โรงงาน มีโรงงานผลิตน้ำดื่มประมาณ 7,000 โรงงาน ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นในความเพียงพอ ความสม่ำเสมอ และการเข้าถึงอาหารได้โดยง่าย จึงขาดการวางระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพเมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนของการมีอาหารจากวิกฤตการณ์เฉพาะหน้า

"มหาอุทกภัยครั้งนี้ส่งสัญญาณเตือนว่าเราต้องเริ่มคิดวางระบบอย่างจริงจัง ตั้งแต่การให้ความรู้ประชาชนเชิงลึกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน จนถึงระดับประเทศ ปลูกฝังกระบวนการคิดและรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน" นายเพ็ชร กล่าว

การแก้ปัญหาแนวทางหนึ่งคือการจัดการ ศูนย์กลางข้อมูลด้านอาหาร (Database) ระดับประเทศ โดยเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงด้านปริมาณผลิต (Supply) ปริมาณความต้องการ (Demand) และปริมาณสินค้าคงคลัง (Stock) ของประเทศ แหล่งที่ตั้งของโรงงาน/แหล่งผลิตอาหาร ข้อมูลการกระจายสินค้าจากแหล่งผลิตไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศและแผนสำรองกรณีฉุกเฉิน รวมถึงมีระบบการบริหารสต็อกหรือปริมาณสต็อกต่ำสุดที่ยอมรับได้ของแต่ละผลิตภัณฑ์ในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นข้อมูลระดับมหภาคสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร/ผู้กำกับนโยบาย เช่น การส่งสัญญาณหรือออกนโยบายจูงใจให้ผู้ผลิตสินค้าบางประเภท หรือบางพื้นที่ปรับเพิ่ม หรือลดปริมาณการผลิต

การนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารกรณี สถานการณ์ไม่ปกติ ระดับประเทศ โดยมีข้อมูลด้านปริมาณความต้องการและวิธีการกระจายสินค้าที่ชัดเจน (เช่น ในช่วงน้ำท่วมขณะนี้ ปลากระป๋องและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเริ่มไม่เพียงพอกับความต้องการทั่วประเทศ เนื่องจากแหล่งผลิตกระจุกตัวบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วม จึงไม่เพียงพอกับความต้องการและก่อให้เกิดความวิตกกังวลในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และหากแหล่งผลิตที่สำคัญในสมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม ได้รับผลกระทบ ก็จะยิ่งทำให้เกิดภาวะของการไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ใน ผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภทนี้ มากยิ่งขึ้น)

การปรับเปลี่ยนวิธีการขนส่งจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ หรือมีหน่วยงานเข้าไปทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสินค้าแทนภาคเอกชน และกำหนดสถานที่จำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อการบริโภค

และการเสนอข้อเท็จจริงที่ทันสถานการณ์ต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตเพื่อเตรียมการและลดความวิตกกังวลจากการขาดแคลนและการเข้าถึงอาหารจนนำไปสู่การเก็บกันอาหารไว้เฉพาะกลุ่มโดยไม่จำเป็น

นายเพ็ชร กล่าวต่อว่า เหตุการณ์การวิตกกังวลในการเข้าไม่ถึงอาหารโดยเฉพาะไข่ และน้ำ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลที่เกิดขึ้นนั้นสาเหตุหลักมาจากปริมาณความต้องการที่มากกว่าปกติ ขณะที่ผู้จำหน่ายและโรงงานผู้ผลิตเตรียมปรับแผนตั้งรับสถานการณ์เช่นนี้ไม่ทันท่วงที แผนสำรองสำหรับการขนส่งสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า การบริหารความเสี่ยงด้านการกระจายสินค้าอาหารเพื่อความมั่นคงทางอาหารในสถานการณ์ไม่ปกติ จึงมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันจัดทำโดยเร็ว เพื่อให้เราพร้อมรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ ที่สำคัญคือการยืนยันสัญลักษณ์ของการเป็น แหล่งข้าวแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของโลกเล็กๆใบนี้ ต่อการมีวิธีการจัดการสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในประเทศของตัวเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ