อินโดนีเซียตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่อันดับสองของโลกในปี 2559

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 17, 2011 16:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพราโนโต โซนาร์โท รองนายกสมาคมผู้ส่งออกและอุตสาหกรรมกาแฟอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่อันดับสามของโลกรองจากบราซิลและเวียดนาม ตั้งเป้าแซงหน้าเวียดนามขึ้นเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อันดับสองภายในปี 2559 ด้วยการเพิ่มยอดผลผลิตต่อปีจากปัจจุบันเป็น 1.4 ล้านตัน

นายโซนาร์โทระบุว่า ทางสมาคมจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกรท้องถิ่นเพื่อเพิ่มยอดผลผลิตให้กับสวนกาแฟที่มีอยู่เดิม

"เราจะทำงานร่วมกับสมาคมกาแฟของบราซิล ซึ่งมีพันธกิจในการช่วยเหลือเราเพิ่มยอดผลผลิตขึ้นเป็นสองเท่า" นายโซนาร์โทให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในการประกวดกาแฟชนิดพิเศษครั้งที่ 4 ของอินโดนีเซีย ซึ่งจัดขึ้น ณ กระทรวงอุตสาหกรรม

นายโซนาร์โทชี้แจงว่า ในช่วงแรก สมาคมร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่จะกำหนดกาแฟชนิดต่างๆ สำหรับพื้นที่เพาะปลูกที่คาดว่าจะให้ยอดผลผลิตสูงสุด และคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม

ในระยะยาว เกษตรกรในพื้นที่คาดว่า จะขยายพื้นที่การเพาะปลูกเพื่อผลักดันให้อินโดนีเซียกลายเป็นประเทศผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกในอีก 10-15 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันอินโดนีเซียมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟทั้งประเทศ 1.3 ล้านเฮคตาร์ และเกษตรกรราว 2 ล้านราย และมียอดผลผลิตเฉลี่ยระหว่าง 700-800 กิโลกรัมต่อเฮคตาร์

หนังสือพิมพ์จาการ์ต้าโพสต์ รายงานว่า ปัจจุบันอินโดนีเซียมียอดผลผลิตกาแฟที่ 690,000 ตันต่อปี แบ่งเป็นกาแฟโรบัสต้า 78% และที่เหลืออีก 22% เป็นกาแฟอาราบิก้า และมียอดส่งออก 68% จากยอดผลผลิตทั้งหมด ไปยังประเทศญี่ปุ่น สหรัฐ และ เยอรมนี ส่วนที่เหลือเป็นการบริโภคภายในประเทศ

นายโซนาร์โทกล่าวว่า นอกจากความพยายามในการเพิ่มยอดผลผลิตแล้ว อุตสาหกรรมท้องถิ่นยังจะเพิ่มยอดผลผลิตกาแฟชนิดพิเศษอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกาแฟพื้นเมืองเช่น กาแฟ Gayo, Mandailing, Lampung, Java, Kintamani และ Toraja ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 15% ของยอดผลผลิตต่อปีของประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ