นายกฯเสนออาเซียน+3 ร่วมป้องกันภัยพิบัติควบคู่สร้างความมั่นคงด้านอาหาร

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 18, 2011 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้อาเซียน และนายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน +3 ซึ่งเป็นการหารือถึงทิศทางความร่วมมือในอนาคตระหว่างอาเซียนกับ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมว่าความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน+3 เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคนี้ พร้อมเสนอในที่ประชุมอาเซียน+3 ถึงความร่วมมือของกลุ่มประเทศสมาชิกที่ควรเกิดขึ้นในอนาคต

คือ 1) การสร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก โดยเฉพาะในภาวะที่สหภาพยุโรปกำลังประสบภาวะหนี้สาธารณะรุนแรง เพื่อเป็นการป้องกันภูมิภาคเอเชียจากความเสียหายทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง ความสำเร็จของอาเซียน+3 ที่ได้จัดทำความตกลง CMIM ซึ่ง เป็นสัญญาความตกลงพหุภาคีในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน+3 เพื่อเป็นกลไกความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาค และยังมีมาตรการการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bonds Market initiative) ที่ได้สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ภูมิภาคอย่างมาก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศสมาชิกมีการหารือเพิ่มเติมถึงมาตรการการป้องกันต่างๆร่วมกันอีกด้วย

2) การสร้างระบบการป้องกันและเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของโลก เริ่มสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมมากยิ่งขึ้น ดังเช่นเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายประเทศของภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย ทำให้นายกรัฐมนตรีเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่บรรดาผู้นำประเทศจะเร่งจัดการระบบการป้องกัน และเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ประชุมอาเซียน+3 นี้ได้มีการวางแผนการจัดการทรัพยากรน้ำ ภายใต้แผนการดำเนินงานความร่วมมือ ASEAN+3 (ASEAN Plus Three Cooperation Work Plan, 2007-2017) แล้ว อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้รัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศมาร่วมกันเสนอแผนการจัดการที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นด้วย

3) ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจาก ภายหลังจากการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ราคาอาหารย่อมเพิ่มขึ้นตามสภาวะ นายกรัฐมนตรีจึงเห็นควรให้กลุ่มประเทศสร้างความร่วมมือเกี่ยกับด้านความมั่นคงทางด้านอาหาร (food security) ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงการจัดตั้งระบบสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียน+3 (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve: APTERR) ที่กรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และย้ำว่าไทยจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารในภูมิภาคนี้

4) ความเชื่อมโยงในอาเซียน นายกรัฐมนตรีเห็นว่ากลุ่มประเทศสมาชิกควรเพิ่มการเชื่อมโยงทางระบบเศรษฐกิจให้มีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณต่อกลุ่มประเทศ +3 (จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี) สำหรับการสนับสนุนความความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ( (Master Plan on ASEAN Connectivity: MPAC) พร้อมกับย้ำว่า ประเทศไทยมีความพร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในเรื่องนี้

ภายหลังการหารือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 3 ซึ่งในปีนี้นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมด้วยตนเอง

สำหรับในช่วงเช้า นายกฯ ได้ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - จีน สมัยพิเศษ และพิธีเปิดศูนย์อาเซียน-จีน ก่อนพบปะกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 14 ต่อด้วยการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 14 ณ ศูนย์การประชุม Bali Nusa Dua Conference Center


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ