นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ว่า การประชุมอาเซียนซัมมิทในครั้งนี้ มีโอกาสพบผู้นำคู่เจรจา7 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐ อินเดีย ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ โดยไทยได้เสนอให้กลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มพูนความร่วมมือในการจัดการภัยพิบัติและการจัดการน้ำ เพราะประเทศในอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม และลาวก็เจอปัญหาเช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งมีการรับข้อเสนอของไทยในเรื่องนี้ในแถลงการณ์ที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการจัดตั้งศูนย์บริหารภัยพิบัติของอาเซียนต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการดำเนินการ เพื่อรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกผันผวนมาก กลุ่มประเทศต้องเร่งรัดรวมตัวเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างยั่งยืน ซึ่งในกลุ่มอาเซียนมีจุดมุ่งหมายชัดเจนในการเร่งรัดดำเนินการเชื่อมโยงกลุ่มอาเซียน สนับสนุนการรวมตัวของอาเซียนในด้านต่างๆ มีหลายโครงการที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เช่น ความร่วมมือสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายในพม่า ทำให้การขนส่งสินค้าด้านตะวันตกได้ประโยชน์ เชื่อมต่อกับแหลมฉบังของไทย ,ความร่วมมือแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือใต้ มีการสร้างถนนไฮเวย์ 4 เลนจากคุนหมิงมาประเทศไทย ถนนจะลากตัดผ่านจังหวัดสำคัญ อำเภอที่ได้ประโยชน์ คือ แม่สอด จ.ตาก จ.พิษณุโลก และ ขอนแก่น
การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและการคลัง ขยายความร่วมมือกองทุนเชียงใหม่ โดยสมาชิกตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อดูแลและรักษาเสถียรภาพการเงินการคลังของสมาชิก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก
ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงต่อจากลาวเข้ามาที่หนองคาย ได้แจ้งให้นายกฯจีนทราบว่า คมนาคมของไทยได้ส่งร่างเอ็มโอยูพิจารณาแล้ว หากจีนตอบตกลงทั้งสองฝ่ายก็มีการเริ่มดำเนินการได้ทันที