World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday November 21, 2011 06:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) จากสัญญาณที่เป็นบวกของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ปรับตัวสูงเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq อ่อนตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ยุโรป รวมถึงความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับการอภิปรายเรื่องหนี้สาธารณะของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 25.43 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 11,796.16 จุด ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.48 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 1,215.65 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 15.49 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 2,572.50 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงปิดที่ระดับต่ำกว่า 98 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ โดยนักลงทุนกังวลว่าการลุกลามของวิกฤตหนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและฉุดรั้งอุปสงค์พลังงานให้หดตัวลง ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ราคาพุ่งช่วงต้นสัปดาห์ และก่อนที่สัญญาส่งมอบเดือนธ.ค.จะหมดอายุ

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 97.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบร่วง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.6%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) โดยแรงซื้อเก็งกำไรได้ช่วยให้ราคาทองคำฟื้นตัว หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักในช่วงสองวันก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ยูโรโซนที่ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ทั้งสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เพื่อถือเงินสดไว้ในมือ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,725.1 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) จากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้เข้าซื้อพันธบัตรอิตาลีและสเปนเพื่อควบคุมต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งทะยานขึ้นในภูมิภาค รวมถึงรายงานที่ว่า อีซีบีและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจให้เงินช่วยเหลือประเทศในยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้สิน

ค่าเงินยูโรดีดขึ้น 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3519 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3459 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดี

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับลง 0.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.890 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 76.970 เยน, อ่อนค่าลง 0.50% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9169 ฟรังค์ จากระดับ 0.9215 ฟรังค์ และลดลง 0.18% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.0271 จากระดับ 1.0290

ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.5786 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5750 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0013 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของพฤหัสบดีที่ 0.9993 ดอลลาร์สหรัฐส่วนดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7567 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7579 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเป็นวันที่ห้าติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนจะไม่มีทางออก เพราะเผชิญอุปสรรคทางการเมืองที่ไม่มีความเป็นเอกภาพ หลังจากที่บรรดาผู้นำยุโรปมีความเห็นแตกแยกเรื่องวิธีการแก้ปัญหา

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 60.2 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 5,362.94 จุด โดยดัชนีปรับตัวลงทุกวันในสัปดาห์นี้ หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปนพุ่งทะยานขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ