นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ในปลายเดือน พ.ย.นี้ ให้พิจารณาโครงการประหยัดพลังงาน 4-5 โครงการ เพื่อส่งเสริมให้เอกชนและหน่วยงานต่างๆ เปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน หลังจากผ่านพ้นวิกฤตอุทกภัยซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้
เบื้องต้นมาตรการดังกล่าวจะให้ผู้ประกอบการสามารถนำส่วนต่างค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้มาใช้เป็นส่วนลดในการซื้ออุปกรณ์ประหยัดพลังงาน รวมถึงจะมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซล 1 หมู่บ้าน 1 เมกกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานในวงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยมีสถาบันการเงินให้การสนับสนุน และให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
รมว.พลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าเปิดตัวบัตรเครดิตพลังงาน เพื่อให้เติมเอ็นจีวีราคาถูกในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยนำร่องให้รถแท็กซี่ใช้ก่อนใน 60 ปั๊มที่มีความพร้อม และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 15 ธ.ค.54 จำนวน 100 ปั๊ม ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ยังมีแผนขยายปั๊มเอ็นจีวีตามแนวท่อส่งก๊าซ และเพิ่มปั๊มเอ็นจีวีเข้าอยู่ในสหกรณ์แท็กซี่ รวมถึงสถานีขนส่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการเอ็นจีวีมากขึ้น และช่วยลดความแออัดในการใช้บริการเติมเอ็นจีวีด้วย
ด้านนายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า การเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน จะนำร่องในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าสูงถึง 200 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าจากการเปลี่ยนอุปกรณ์แล้วจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 20-30 % และเห็นผลได้ภายใน 20 เดือน จากนั้นหากประสบความสำเร็จด้วยดีก็จะขยายไปยังหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เช่น กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานราชการ