ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ว่า บอร์ดนโยบายทางการเงินบางรายของธนาคารกลางเตือนว่า วิกฤตหนี้ในยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปสู่สถานการณ์ในลักษณะคล้ายกับวิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นจากการล่มสลายของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ อิงค์ เมื่อเดือนก.ย. 2551
“บอร์ดบางรายแสดงความเห็นว่า ในสถานการณ์ที่ตลาดการเงินโลกยังคงตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดที่เกิดจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป อย่าลืมว่ามีความเสียงที่ตลาดการเงินจะเผชิญหน้ากับสภาวะตื่นตระหนกเหมือนกับที่เกิดภาวะเลห์แมนช็อก และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นยังมีอยู่เพียงเล็กน้อยก็ตาม" สำนักข่าวเกียวโดรายงานคำกล่าวจากที่ประชุม
ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันว่า วิกฤตหนี้ดังกล่าวเป็นปัจจัยผลักดันค่าเงินเยนให้แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะถือครองสกุลเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่า ขณะที่บอร์ดบางรายระบุว่า ควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นไปได้ที่ผลกำไรขององค์กรต่างๆจะได้รับผลกระทบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การจ้างงานและรายได้ต่อไป
สมาชิกรายหนึ่งแสดงความวิตกกังวลว่า หากเงินเยนยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้โรงงานและฐานการวิจัยหลักๆของบริษัทญี่ปุ่นต้องย้ายฐาน และอาจจะทำให้การลงทุนและการจ้างงานภายในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก
หลังเสร็จสิ้นการหารือในที่ประชุม บอร์ดทุกคนได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านการคาดการณ์อัตราการขยายตัวในปีงบประมาณ 2554 และ 2555 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลงจากการประเมินเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาเล็กน้อย
นอกจากนี้ บอร์ดนโยบายยังมีมติพ้องกันว่า หากที่ประชุมสามารถผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมได้ ทางธนาคารกลางคาดการณ์ว่า ในที่สุดแล้วเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะกลับสู่ทิศทางการขยายตัวอย่างยั่งยืน โดยมีเสถียรภาพของราคาในระยะยาว