นางเซติ อัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย เปิดเผยในวันนี้ว่า สถาบันการเงินในภูมิภาคเอเชียเริ่มมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับเอเชียในการรับมือกับภาวะอ่อนแอด้านการเงินทั่วโลก อันเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป
"สถาบันการเงินในเอเชียมีความแข็งแกร่งและมีฐานเงินทุนมากขึ้น ตลาดการเงินของเราพัฒนาไปมาก และธนาคารก็มีเงินทุนกันชน (capital buffer) มากขึ้นในรูปของทุนสำรองเงินต่างประเทศ" นางอาซิสกล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่ประชุมกลุ่มที่ปรึกษาประจำภูมิภาคเอเชียของคณะกรรมการรักษาเสถียรภาพการเงิน (FSB) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโซล เกาหลีใต้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมกลุ่มที่ปรึกษาระดับภูมิภาคของ FSB จัดขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากผู้นำกลุ่ม G20 ได้ขอให้คณะกรรมการ FSB เพิ่มขอบข่ายความรับผิดชอบที่นอกเหนือไปจากประเทศในกลุ่มสมาชิก G20 ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ นางอาซิสได้เข้าร่วมประชุมในฐานะประธานร่วม เพื่อเป็นตัวแทนของ 8 ประเทศนอกกลุ่ม G20 ซึ่งรวมถึงประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ นิวซีแลนด์ และเวียดนาม
นางอาซิสกล่าวว่า ธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียจำเป็นต้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายมากขึ้น และยังกล่าวด้วยว่าธนาคารกลางในเอเชียให้ความร่วมมือในประเด็นสำคัญระดับโลกได้ดีขึ้น
การแสดงความคิดเห็นของนางอาซิสมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่มีความวิตกกังวลมากขึ้นว่า ภาคการธนาคารของยุโรปอาจจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนสภาพคล่อง หลังจากธนาคารได้เข้าไปลงทุนจำนวนมากในประเทศที่ประสบปัญหาในยุโรป ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารต้องถูกบีบให้ปรับลดมูลค่าพันธบัตรของรัฐบาล และอาจต้องตั้งบัญชีสำรองหนี้สูญมูลค่ามหาศาล