ผลสำรวจเผยสภาพทางการเงินผู้บริโภคชาวอเมริกันย่ำแย่ลงกว่าเดิม

ผลการสำรวจล่าสุดของสมาพันธ์ผู้บริโภคอเมริกา (CFA) ร่วมกับ สมาพันธ์ผู้ประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อแห่งชาติสหรัฐ (CUNA) พบว่า ผู้บริโภคชาวสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง โดยผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนมากเผยว่า สภาพทางการเงินของตนเองนั้นย่ำแย่กว่าปีที่แล้ว

ทั้งนี้ 37% ของผู้บริโภค 1,011 รายที่ตอบรับการสำรวจระบุว่า สภาพทางการเงินในปีนี้เลวร้ายกว่าปีก่อน เมื่อเทียบกับ 30% ของตัวเลขปี 2553 โดยข้อมูลดังกล่าวอยู่ในผลการสำรวจประจำปีทั่วประเทศเรื่องการจับจ่ายใช้สอยช่วงวันหยุดครั้งที่ 12 ซึ่งสำรวจในระหว่างวันที่ 10 — 13 พ.ย. โดย CFA และ CUNA

ในปีนี้ มีเพียงแค่ 19% ของผู้บริโภคที่ระบุว่า สภาพทางการเงินดีกว่าปีก่อน เมื่อเทียบกับ 23% ของตัวเลขปีก่อน

เนื่องจากสภาพทางการเงินที่เลวร้ายลง ผู้บริโภค 41% วางแผนใช้จ่ายในปีนี้ให้น้อยลงกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นสถิติที่เท่ากันกับที่เคยสำรวจเมื่อปีก่อน โดยมีผู้บริโภคเพียง 8% วางแผนจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ 10% ของตัวเลขปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจล่าสุดเป็นการปรับปรุงจากผลการสำรวจปี 2551 ซึ่ง 55% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขาตั้งใจจะใช้จ่ายให้น้อยลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่

นายบิล แฮมเพล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ CUNA กล่าวว่า “ข่าวดี คือ แผนการจับจ่ายรัดกุมมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นในช่วงเลวร้ายสุดของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเมื่อปี 2551 แต่ข่าวร้ายคือแผนการจับจ่ายยังคงอยู่ในเกณฑ์ต่ำอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ"

ตั้งแต่ปี 2543 — 2550 เปอร์เซนต์ของผู้ที่วางแผนจะใช้จ่ายให้น้อยลงนั้น ไม่เคยสูงกว่า 35% และมักจะอยู่ที่ 30% หรือต่ำกว่านั้น

ครอบครัวชาวอเมริกันเพิ่มการจับจ่ายในเดือนก.ย. ขณะที่รายได้แทบจะไม่เพิ่มขึ้น โดยมีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน คือ ครัวเรือนชาวอเมริกันหันมาพึ่งเงินออมของตนเองมากขึ้น เพื่อรับมือกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

ทั้งนี้ การจับจ่ายของผู้บริโภคคิดเป็น 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดของสหรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมส่วนใหญ่จะยังต้องพึ่งพาการฟื้นตัวของการบริโภค สำนักข่าวซินหัวรายงาน