ยอดการกู้ยืมของอังกฤษปรับตัวลดลงในเดือนตุลาคม บ่งชี้ว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณที่วางไว้
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมสุทธิ ซึ่งไม่รวมมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.5 พันล้านปอนด์ (1.02 หมื่นล้านดอลลาร์) จากระดับ 7.7 พันล้านปอนด์ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตัวเลขเดือนต.ค.ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เล็กน้อยว่าจะอยู่ที่ราว 6.8 พันล้านปอนด์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีขยายตัวแซงหน้ารายจ่าย
โดยค่าใช้จ่ายของหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลร่วงลง 3.1% ส่งผลให้อัตราขยายตัวของรายจ่ายโดยรวมลดลงแตะ 1.1% ส่วนรายได้ขยายตัว 4.1%
ข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดส่งผลให้ยอดการกู้ยืมสะสมนับตั้งแต่ต้นปีงบประมาณในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 6.83 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของรัฐบาลที่ 1.22 แสนล้านปอนด์สำหรับตลอดปีงบประมาณนี้
กระทรวงการคลังระบุว่า ตัวเลขเดือนต.ค.แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของรัฐบาลในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และสะท้อนว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังคงค่อนข้างปลอดภัยจากวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาค
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ จะแถลงงบประมาณประจำฤดูใบไม่ร่วง ต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า
นายออสบอร์น และนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน กำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ ถึงแม้ว่าจะถูกฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวก็ตาม