นายโอลลี เรห์น กรรมาธิการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) พยายามโน้มน้าวให้เยอรมนีเห็นชอบกับการออกพันธบัตรสกุลเงินยูโร หรือ ยูโรบอนด์ เชื่อจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยบรรเทาวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาคได้
นายเรห์นกล่าวในระหว่างการประชุมสมาพันธ์นายจ้างของเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลิน วันนี้ว่า แม้เขาเชื่อว่ายูโรบอนด์จะสามารถช่วยคลี่คลายวิกฤตหนี้ได้ แต่เขาก็ตระหนักดีว่ามีกระแสคัดค้านแนวคิดดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเยอรมนี ที่เกรงว่าการออกยูโรบอนด์จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของตนมากกว่าผลดี
อย่างไรก็ดี นายเรห์นกล่าวว่า ก่อนที่จะมีการออกพันธบัตรดังกล่าวได้ในอนาคต เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ เพื่อที่จะแน่ใจได้ว่าสถานะการคลังของรัฐบาลประเทศต่างๆมีความยั่งยืน และหลีกเลี่ยงไม่ให้ประเทศหนึ่งไปอาศัยประโยชน์จากความพยายามเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังของประเทศอื่นๆ
เขาระบุว่า การออกพันธบัตรสกุลเงินยูโรจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิรูปการกำกับดูแลเศรษฐกิจเสียก่อน พร้อมกันนี้เขายังได้เรียกร้องให้ ประเทศสมาชิกยูโรโซนยอมให้คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของอียู เข้าตรวจสอบงบประมาณประจำปีของแต่ละประเทศได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีภายใต้การนำของนางอังเกลา แมร์เคิล ยืนกรานคัดค้านเสียงเรียกร้องให้มีการออกพันธบัตรร่วมกันโดย 17 ประเทศสมาชิกยูโรโซน เนื่องจากเกรงว่า การออกพันธบัตรร่วม ซึ่งเปรียบเสมือนการนำหนี้สินของทุกประเทศมากองรวมกันนั้น จะผลักดันให้ต้นทุนการกู้ยืมของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ชาวเยอรมันผู้เสียภาษีต้องมาแบกรับความเสี่ยงจากหนี้เสียของบรรดาประเทศที่อ่อนแอกว่า และทำให้ประเทศที่ประสบภาวะหนี้สินขาดแรงกระตุ้นในการดูแลการเงินการคลังของตนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
คณะกรรมาธิการยุโรปมีแผนที่จะเปิดเผยข้อเสนอใหม่ๆในวันพรุ่งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการกำกับดูแลเศรษฐกิจร่วมในยุโรป หนึ่งในนั้นรวมถึงการแนะนำพันธบัตรสกุลเงินยูโรหลายประเภท ซึ่งทางคณะกรรมการเรียกว่า "พันธบัตรรักษาเสถียรถาพ" (Stability Bond)