(เพิ่มเติม) ผู้ว่า ธปท.เตรียมปรับลด GDP ปี 54 ลงจาก 2.6%ในการประชุม กนง.30 พ.ย.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 23, 2011 12:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้อาจต่ำกว่า 2.6% อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง ธปท.จะมีการปรับลดคาดการณ์ใหม่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 30 พ.ย.นี้

โดยสถานการณ์น้ำท่วมอาจกระทบความเชื่อมั่นในไตรมาส 4/54 ค่อนข้างมาก เพราะการลงทุนภาคเอกชน และการอุปโภคบริโภคลดลง ซึ่งเป็นโจทย์ ที่กนง.ต้องพิจารณาทิศทางการเงินเพื่อคำนึงถึงความเชื่อมั่น และอีกโจทย์ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจหลังน้ำลดว่าการลงทุนและการบริโภคจะกลับมามากน้อยแค่ไหน โดยการลงทุนภาคเอกชนจะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในการป้องกันน้ำท่วมมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศด้วย

สำหรับการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมเพื่อให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติคาดว่าจะเร็วขึ้นเป็นภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นไตรมาส 1/55 ซึ่งจะเริ่มเห็นการฟื้นฟูในภาคธุรกิจและการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของประชาชน และในปี 55 กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับฟื้นตัวมาก และจะมีแรงกดดันอีกด้านต่อนโยบายการเงิน และในปี 55 ตัวเลขจะค่อนไปทางที่ดีกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 4.1% แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานน้ำลด และเศรษฐกิจกลับมาได้แค่ไหน รวมทั้งเม็ดเงินในการฟื้นฟูและซ่อมแซมบ้าน

"ผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงสั้นอาจรุนแรง แต่หลังน้ำลดจะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาแรงเช่นกัน ทำให้นโยบายการเงินต้องหาจุดสมดุลที่เหมาะสม พร้อมระมัดระวังปัญหาหนี้ที่กระทบเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป" นายประสาร กล่าว

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า การประชุมทางไกลผ่านระบบคอนเฟอเรนท์กับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งสุดท้ายหลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วม มีผลสรุปว่าขณะนี้สถาบันการเงินได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงจะมีการยกเลิกแผนฉุกเฉินของธนาคารพาณิชย์ภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ธปท.และธนาคารพาณิชย์จะมีการหารือร่วมกันเพื่อวางแนวทางการช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งล่าสุดพบความเสียหายของสินเชื่อในพื้นที่น้ำท่วม อยู่ที่ 4 แสนล้านบาท จากสินเชื่อทั้งระบบที่มี 10 ล้านล้านบาท ซึ่งยอมรับว่า สินเชื่อที่เสียหายดังกล่าวอาจเกิดเป็น NPL บ้างแต่ไม่ทั้งหมด ดังนั้นเชื่อว่าภายในสิ้นปี 54 คงไม่มี NPL เร่งตัวขึ้น และไม่น่ากังวลกับฐานะธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก แม้จะมีภาระการกันสำรองเพิ่มก็ตาม แต่ถือเป็นการบริหารธุรกิจที่รอบคอบ ซึ่งธปท.สนับสนุนให้ธนาคารนำผลกำไรมาใช้ในการตั้งสำรอง

"ยืนยันว่าตอนนี้ในระบบมีสภาพคล่องเพียงพอรองรับความต้องการใช้สินเชื่อของทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งระยะหลังแบงก์ชาติมีการดูดซับสภาพคล่องกลับ 4 ล้านล้านบาท และพยามดูแลสภาพคล่องไว้เพียงพอ แต่ยุโรป สหรัฐยังมีความเสี่ยงสูง ที่กระทบต่อตลาดเครดิต ทำให้สภาพคล่องดอลลาร์ในตลาดสหรัฐเหือดแห้ง จึงต้องติดตามว่าสถาบันการเงินไทยและภูมภาคจะไม่ถูกกระทบ ยังมีเครดิตที่ดีได้" ผู้ว่า ธปท. กล่าว

อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่อ่อนค่ายังไม่น่าห่วงเพราะมีเงินสำรองมากพอ และเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ เนื่องจากปัญหาในสหรัฐและยุโรป ไม่ได้เกิดจากปัจจัยน้ำท่วม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ