นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบายสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทย 15.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25% จาก 15.9 ล้านคนในปี 53 แต่หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมคาดว่าจะกระทบทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ หายไป 7 แสน - 1 ล้านคน จากเดิมที่คาดว่าจะมีเข้ามาประมาณ 5 ล้านคน คิดเป็นรายได้ที่สูญเสียไป 3-4 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ยังไม่รวมจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ ที่หลังจากเกิดน้ำท่วมในจ.พระนครศรีอยุยาและเส้นทางเชื่อมต่อไปยังภาคต่างๆ คาดว่า ผลกระทบในช่วง 2 เดือนจะทำให้นักท่องเที่ยวไทยหายไปประมาณ 5 หมื่นคน คิดเป็นรายได้ที่หายไป 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายประเทศมีการเตือนประชาชนแต่ละประเทศให้ระวังในการเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 5 โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญที่มีการเตือนถึงระดับ 5 เนื่องจากอาจเป็นเพราะเคยมีบทเรียนจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและการปิดโรงแรมที่พัทยา ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจท่องเที่ยว ในขณะที่บริษัทประกันไม่ยอมรับความเสี่ยงในการรับประกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย อีกทั้งในขณะนี้ยังมีภาพเครื่องบินที่ถูกน้ำท่วมที่สนามบินดอนเมือง รวมถึงข่าวการแพร่ระบาดของโรคหลังน้ำท่วม ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลในการเดินทางเข้าประเทศไทย
"ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาการันตี หรือค้ำประกัน บริษัทท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นเพื่อชดเชยข่าวลือ ภาพลักษณ์ของประเทศที่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปก่อนหน้าหน้านี้ ขณะเดียวกันน่าจะมีการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉิน ซึ่งควรมีตัวแทนที่ไม่ใช่จากภาครัฐร่วมในการพิจารณ เพื่อให้การใช้เงินจากกองทุนทำได้เร็วขึ้น" นายกงกฤช กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินว่า ในภาคการท่องเที่ยวอาจใช้เวลาฟื้นได้ในเวลา 1 เดือน แต่อาจจะเกิดปัญหาในการต่อรองราคา โดยเฉพาะบริษัททัวร์รายใหญ่ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีการปรับขึ้นราคาประมาณ 10% หลังจากไม่เคยมีการปรับราคามา 3 ปี
"ตอนนี้นักท่องเที่ยวกังวลข่าวลือต่างๆ...ตลาดที่ได้รับผลกระทบหนัก คือจีนและรัสเซีย เพราะมีจำนวนนักท่องเที่ยวนับล้านคนที่จะเดินทางมาในลักษณะเหมาลำ" นายกงกฤช กล่าว