ก.เกษตรฯเร่งของบเยียวยาความเสียหายด้านเกษตร8.9พันลบ.พร้อมฟื้นฟูอาชีพ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 24, 2011 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า มาตรการเร่งด่วนระยะแรกในการฟื้นฟูช่วยเหลือความเสียหายด้านการเกษตรจากภัยน้ำท่วม คือการเร่งเสนอของบประมาณเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ตั้งแต่เหตุการณ์ดินโคลนถล่มในภาคใต้เมื่อเดือนพฤษภาคมจนถึงวิกฤตน้ำท่วมในปัจจุบัน ซึ่งมีผู้ได้รับความเสียหายและได้รับผลกระทบแล้วมากกว่า 1 ล้านครัวเรือน โดยในภาคใต้เกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลไปแล้วมากกว่าร้อยละ 50 ผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์

ในส่วนของความเสียหายจากภัยน้ำท่วม กระทรวงเกษตรฯ ได้ของบประมาณให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปเป็นจำนวนเงิน 8.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับการพิจารณา เนื่องจากมีเกษตรกรหรือประชาชนที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือจำเป็นต้องมีการกลั่นกรองกันอย่างรอบคอบ ซึ่งในส่วนของภาคการเกษตร จะมีคณะอนุกรรมการตรวจสอบความเสียหายด้านการเกษตรระดับหมู่บ้าน ประกอบด้วย กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน เป็นประธานกรรมการสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล อาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน ผู้แทนเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย เป็นกรรมการ และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรที่รับผิดชอบเป็นเลขานุการ มีหน้าที่ตรวจสอบความเสียหายด้านพืช ด้านประมงและด้านปศุสัตว์ รวมทั้งจัดทำเวทีประชาคม เพื่อตรวจสอบข้อมูลความเสียหาย และรายงานมายังคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ และเสนอมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้กระทรวงยังได้เตรียมแผนฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรภายหลังน้ำลดซึ่งจะบรูณาการการทำงานของหน่วยงานในสังกัดผ่านโครงการต่างๆ เข้าช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถกลับมาประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงได้อีกครั้ง" นางสาวสุพัตรากล่าว

อนึ่ง อัตราเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็นกรณีพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี ในส่วนของภาคการเกษตร ประกอบด้วย ด้านพืช ช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย ได้แก่ ข้าว ไร่ละ 2,222 บาท พืชไร่ ไร่ละ 3,150 บาท พืชสวนและอื่นๆ ไร่ละ 5,098 บาท และกรณีพื้นที่การเกษตรถูกดินทับถมเสียหาย ไร่ละ 7,000 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่

ด้านประมง ปลาทุกชนิด ไร่ละ 4,225 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่ กุ้ง-ปู-หอย 10,920 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยง ตร.ม.ละ 315 บาท รายละไม่เกิน 80 ตร.ม. และช่วยเหลือตามอัตราและเกณฑ์ข้างต้น กรณีพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายที่เกินจากเกณฑ์ช่วยเหลือให้ได้รับความช่วยเหลืออีกครึ่งหนึ่งของพื้นที่ส่วนที่เกินนั้น

ด้านปศุสัตว์ ช่วยเหลือตามจำนวนสัตว์ที่ตายหรือสูญหาย โดย โค-กระบือ ตัวละ 3,600-15,800 บาท ไม่เกินรายละ 2 ตัว สุกร ตัวละ1,200-2,500 บาท แพะ-แกะ ตัวละ 1,400 บาท นกกระจอกเทศ ตัวละ 2,000 บาท ไม่เกินรายละ 10 ตัว ไก่พื้นเมือง ตัวละ 20-40 บาท ห่าน ตัวละ 50 บาท ไม่เกินรายละ 300 ตัว เป็ดพันธุ์เนื้อและพันธุ์ไข่ ตัวละ 15-40 บาท ไก่พันธุ์เนื้อ ตัวละ 15-35 บาท ไก่พันธุ์ไข่ ตัวละ 15-60 บาท นกกระทา ตัวละ 5-10 บาท ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว แปลงหญ้าหรือพืชอาหารสัตว์เสียหายให้ช่วยเป็นเงิน เมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ไม่เกินรายละ 20 ไร่ ๆละไม่เกิน 2 กิโลกรัม เมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ กิโลกรัมละ 110 บาท และท่อนพันธุ์พืชอาหารสัตว์ไม่เกินรายละ 20 ไร่ ไร่ละไม่เกิน 250 กิโลกรัม ท่อนพันธุ์พืชอาหารสัตว์ กิโลกรัมละ 2.50 บาท โดยในกรณีได้รับความเสียหายที่เกินจากการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ให้ได้รับเงินช่วยเหลืออีกครึ่งหนึ่งของความเสียหายส่วนที่เกิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ