นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการหารือกับ รมว.พลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ในระหว่างการเยือน UAE อย่างเป็นทางการว่า เป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยกับ UAE ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในตะวันออกกลาง และเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปคที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยมาเป็นเวลา
ทั้งนี้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันและเศรษฐกิจของโลก ความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคเอเชีย และลู่ทางความร่วมมือระหว่างบริษัทน้ำมันแห่งชาติของทั้งสองประเทศในการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียม การพัฒนาโครงข่ายพลังงานและการจัดตั้งคลังสำรองน้ำมันในภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ในการนี้ รมว.พลังงาน UAE ได้สอบถามและแสดงความสนใจในโครงการแลนด์บริดจ์ และการจัดตั้งคลังสำรองและท่อส่งน้ำมันเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งจากทะเลอันดามันกับทะเลจีนตอนใต้ของไทย และลู่ทางความร่วมมือด้านพลังงานในอนาคตระหว่างบริษัท ADNOC และปตท.
นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมพลังงานทดแทนของไทย โดยเฉพาะด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuels) และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก ซึ่ง UAE มีโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทนเช่นกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการเมืองใหม่ Masdar City ที่มีเป้าหมายในการเป็นเมืองที่ใช้พลังงานทดแทนร้อยเปอร์เซ็นต์และไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ(carbon-neutral)
ขณะเดียวกัน รัฐบาลของ UAE ยังมีโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกด้วยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ในปี พ.ศ.2560 (2017) เพื่อรองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า UAE เป็นประเทศพันธมิตรด้านพลังงานที่สำคัญของไทย โดยปัจจุบันไทยนำเข้าน้ำมันดิบจาก UAE เป็นอันดับหนึ่ง ถึง 280,000 บาร์เรลต่อวันของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด ผ่านการซื้อขายในรูปแบบของสัญญาระยะยาว ระหว่างบริษัท ADNOC (ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของ UAE) กับ บมจ.ปตท.(PTT)
นอกจากนี้ กรุงอาบูดาบียังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ (Headquarters) ของทบวงการพลังงานทดแทนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency หรือ IRENA) ซึ่งไทยมีความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกของ IRENA อีกด้วย เพื่อชูบทบาทของไทยในการเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนในภูมิภาคอาเซียน
สำหรับการเดินทางมาเยือนกรุงอาบูดาบีร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในครั้งนี้ รมว.พลังงานของไทย ได้นำคณะผู้บริหารจากภาคพลังงานของไทยรวมทั้ง บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) และ บมจ.ไทยออยล์(TOP) ร่วมเดินทางมาเพื่อขยายโอกาสการลงทุนด้านพลังงานของไทยในต่างประเทศด้วย