นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า มีนักประดิษฐ์จำนวนมากยื่นขอคำขอจดทะเบียนสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เข้ามามากเพื่อใช้ในภาวะน้ำท่วม และช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น เครื่องสูบน้ำจากระดับต่ำขึ้นที่สูง, เครื่องปรับปรุงคุณภาพน้ำแบบไหลทิศทางทรงพีระมิด, กำแพงป้องกันน้ำท่วม, ลูกบอลหนีภัยสึนามิและภัยน้ำท่วม, เขื่อนใต้ดิน, บ้านสะเทินน้ำสะเทินบก, ถุงห่อทรัพย์สินป้องกันน้ำ
นอกจากนี้ ยังมีตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการอยู่อาศัย, ถุงสุขา, แคปซูลฟิล์มพลาสติกกันน้ำ, อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมทางประต, เรือที่ขับเคลื่อนโดยรถยนต์, เรือที่ขับเคลื่อนโดยรถจักรยานยนต์, เครื่องหมาย"ไบโอ-บาร์" ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายสิ่งปฎิกูลในระบบน้ำเสีย และเครื่องหมาย"กางเกงแก้ว" ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่มีคุณสมบัติต้องกันน้ำได้ แต่ไม่กันไฟดูด
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า จากการสำรวจความเสียหายของผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(จีไอ)ที่ได้ยื่นจดทะเบียนแล้ว พบว่าผู้ประกอบการในพื้นที่ประสบภัยอุทักภัย 12 จังหวัด จากทั้งหมด 31 จังหวัด ได้รับความเสียหาย 583,780,611 บาท เช่น ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์, ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้, ส้มโอนครชัยศรี, ส้มโอขาวแตงกวา, หุ่นฟางนกชัยนาท, เครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ด, ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าจีไอในอีกหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เช่น ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จ.สุรินทร์ มะพร้าวน้ำหอมบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตุ่มสามโคก จ.ปทุมธานี เป็นต้น
"อุทกภัยได้สร้างความเสียหาย ทั้งที่ประเมินได้และไม่อาจประเมินได้ โดยเฉพาะหากยังท่วมขังนาน อาจทำให้คุณสมบัติเด่นของสินค้าจีไอในแต่ละพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะทำให้หน้าดินเสียหาย เช่น ความหวานของส้มโอ หรือความหอมของข้าวหอมมะลิ รวมถึงความสูญเสียโอกาสเชิงการค้า แต่สัปดาห์หน้ากรมฯ จะลงพื้นที่สำรวจและให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ผู้เพาะปลูกในพื้นที่ และหลังน้ำลดจะจัดกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าจีไอทั้งในประเทศและต่างประเทศ" นางปัจฉิมากล่าว