นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ระบุว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นในรูปของเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นและราคาหุ้นที่ร่วงลงเท่านั้น แต่ยังอาจจะส่งผลกระทบผ่านทางการค้าและภาคส่วนอื่นๆด้วย
ผู้ว่าการธนาคารกลางกล่าวว่า นอกจากผลกระทบทางการเงินแล้ว ผลกระทบจากปัญหาหนี้ที่มีต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังอาจเพิ่มมากขึ้นในหลายช่องทาง เช่น การส่งออกไปยังประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ปรับตัวลดลง รวมถึงการส่งออกไปยังประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรที่เชื่อมโยงด้านการค้ากับยุโรปอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นายชิรากาว่ายังได้ย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันไม่ให้ปัญหาหนี้ลุกลามไปจนทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลกเหมือนเมื่อครั้งการล่มสลายของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ ในเดือนก.ย. 2551 พร้อมกับเรียกร้องให้ยุโรปใช้มาตรการที่ครอบคลุมตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ เพื่อคลี่คลายวิกฤตอย่างแน่วแน่
เขากล่าวต่อไปว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและเงินเยนที่แข็งค่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงซื้อสินทรัพย์ทางการเงินอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มการผ่อนคลายทางการเงิน
ในการประชุมนโยบายครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่ได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม แต่ได้ทบทวนปรับลดการประเมินเศรษฐกิจพื้นฐาน พร้อมกับระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ไม่เร็วเหมือนเดิม เนื่องจากผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน