World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday November 28, 2011 06:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลเบลเยียม ลง 1 ขั้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นในการประมูลล่าสุดเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในวัน "แบล็ค ฟรายเดย์" กลายเป็นวันที่ซบเซา และยังทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 25.77 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 11,231.78 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.12 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 1,158.67 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 18.57 จุด หรือ 0.75% แตะที่ 2,441.51 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอาจจะเกิดภาวะติดขัดด้านอุปทานน้ำมัน อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง รวมถึงความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และสถานการณ์ความไม่สงบในอียิปต์และลิเบีย อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 96.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.55 - 94.99 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำ นอกจากนี้ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในการประมูลเมื่อวานนี้ ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,685.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1695.1 - 1674.8 ดอลลาร์

-- -สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในการประมูลเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลเบลเยียม

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.88% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3348 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.35% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5438 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5492 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.86% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.730 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 77.070 เยน และทะยานขึ้น 1.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9304 ฟรังค์ จากระดับ 0.9194 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9693 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9725 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7379 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7410 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคับคั่ง หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ภาคธนาคารอาจจะเข้ามามีส่วนในการแบกรับภาระหนี้ของประเทศยูโรโซนน้อยลง

ดัชนี FTSE ปิดบวก 37.08 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 5,164.65 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ