ชอปเปอร์ แทรค ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านค้าปลีกของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวสหรัฐในช่วงวัน "แบล็ค ฟรายเดย์" หรือวันศุกร์หลังจากวันขอบคุณพระเจ้าซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 24 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.6% สู่ระดับ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
บิล มาร์ติน ผู้บริหารชอปเปอร์ แทรค เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคให้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันแบล็ค ฟรายเดย์ มาจากการที่ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้อัตราว่างงานยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 9% ก็ตาม นอกจากนี้ ยอดขายในวันแบล็ค ฟรายเดย์ในปีนี้ยังถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ชอปเปอร์ แทรค ทำการสำรวจในช่วงปี 2549 - 2550
รายงานระบุว่า ห้างค้าปลีกต่างๆของสหรัฐ ตั้งแต่ห้างแก๊ป ไปจนถึงวอล-มาร์ท และทอยส์ อาร์ อัส ได้เปิดทำการเช้ากว่าปกติ ซึ่งยิ่งทำให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น
รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 64.2 จุด จากระดับ 60.9 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 61.5 จุด ส่งสัญญาณว่าผู้บริโภคสหรัฐมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม มาร์ตินกล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันแบล็ค ฟรายเดย์ ถือเป็นตัวเลขเพียงวันเดียว และไม่สามารถสะท้อนถาพรวมของภาคค้าปลีกหรือตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทั้งหมดได้ จึงต้องรอดูว่าผู้บริโภคจะยังคงจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะถึงนี้