เวิลด์แบงก์ให้น้ำหนักผลกระทบศก.โลก-น้ำท่วมต่อทิศทางดอกเบี้ยไทยเท่ากัน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 28, 2011 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เวิลด์แบงก์ให้น้ำหนักความกังวลผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์น้ำท่วมที่มีต่อเศรษฐกิจไทยให้ระดับที่ใกล้เคียงกัน จึงยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าที่ประชุมคุณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันที่ 30 พ.ย.นี้จะพิจารณากำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร

เวิลด์แบงก์ระบุว่าความกังวลส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจโลกยังมีความอ่อนไหวสูง ขณะที่ปัญหาในประเทศจากผลกระทบน้ำท่วมทำให้ต้องเร่งการฟื้นฟูหลายด้าน ซึ่งหาก กนง.เป็นห่วงผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกมากกว่าก็อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่หากมองปัญหาเรื่องน้ำท่วมสำคัญกว่าก็คงลดอัตราดอกเบี้ยลง

ทั้งนี้ เวิลด์แบงก์มองว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 55 แม้ว่าจะมีการเร่งฟื้นฟูและคาดว่าจะมีการใช้เงินจำนวนมาก แต่การเร่งตัวของเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 54 แต่ก็ต้องขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย ดังนั้น จึงแนะนำให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เก็บกระสุนด้านนโยบายไว้ใช้ยามจำเป็น เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่แข็งแรงและปัญหาอาจยืดเยื้อ แม้ว่าไทยมีทุนสำรองฯระดับสูงก็ตาม

น.ส.กิริฎา กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วทครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างมากในขณะนี้นั้น เวิลด์แบงก์ประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.36 ล้านล้านบาท แยกเป็นความเสียหายของทรัพย์สินต่าง ๆ 6.4 แสนล้านบาท และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท โดยความเสียหายส่วนใหญ่เกิดกับภาคอุตสาหกรรม 9.3 แสนล้านบาท ภาคการท่องเที่ยว 9.4 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังไม่ย้ายฐานการผลิตจากไทย

อนึ่ง เวิลด์แบงก์ประเมินว่าน้ำท่วมจะส่งทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยในปีนี้ลดลง 1.2% จากที่ประเมินไว้ 3.6% เหลือ 2.4% แต่ในปีหน้าการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลดจะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นอีก 0.3% มาที่ 4% จากเดิมประเมินไว้ 3.7% ซึ่งยังไม่ได้รวมผลกระทบเศรษฐกิจโลก โดยเวิลด์แบงก์จะประเมินภาพรวมและแถลงอีกครั้งปลายเดือน ธ.ค.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ