องค์การเพื่อการพัฒนาและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (OECD) คาดการณ์ว่า ตัวเลขหนี้สินของรัฐบาลญี่ปุ่นจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 230% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2556 ซึ่งหมายความว่าปัญหาหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นจะย่ำแย่ลงอีก แม้รัฐบาลประกาศใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายแล้วก็ตาม
"การจัดทำแผนการปรับสมดุลการคลังที่น่าเชื่อถือและมีรายละเอียดถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรก เพื่อให้รัฐบาลสามารถบรรลุเป้าหมายการมียอดเกินดุลงบประมาณและรักษาสัดส่วนหนี้สาธารณะให้มีเสถียรภาพภายในปี 2563" OECD ระบุ
นอกจากนี้ OECD เตือนว่า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลกยังอาจจะเพิ่มแรงกดดันให้กับสถานะทางการเงินของญี่ปุ่น และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นจัดตั้งคณะทำงานด้านการคลังเพื่อรับมือกับอุปสรรคต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อสถานะการคลังของประเทศ
ทั้งนี้ OECD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 2% ในปี 2555 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 2.2% พร้อมทั้งระบุว่า การแข็งค่าของเงินเยนกำลังสร้างแรงกดดันให้กับอุตสาหกรรมการส่งออกของญี่ปุ่น และคาดว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนจะทำให้ญี่ปุ่นเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินฝืดต่อเนื่องไปจนถึงปี 2556
นอกจากนั้น OECD ระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของต้นทุนการใช้จ่ายด้านการฟื้นฟูหลังจากเกิดแผ่นดินไหว และแม้ว่าเศรษฐกิจได้แรงหนุนบางส่วนจากตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนที่สูงขึ้นและอุปสงค์ทั่วโลกที่ฟื้นตัวขึ้น แต่ OECD ก็ยังคงแนะนำให้ญี่ปุ่นทบทวนกลยุทธ์ด้านภาษี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน