ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ หลังผลประมูลพันธบัตรอิตาลีสดใส

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 30, 2011 07:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากรัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีราคาบ้านของสหรัฐร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนก.ย.

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3330 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3308 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.70% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5610 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5501 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.860 เยน จากระดับ 77.940 เยน และดิ่งลง 0.34% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9197 ฟรังค์ จากระดับ 0.9228 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0021 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9892 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.03% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7623 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7545 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทันทีที่มีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธบัตรชุดใหม่ครั้งที่ 3 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยได้ทั้งสิ้น 7.5 พันล้านยูโร ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ที่ 8 พันล้านยูโร ซึ่งแม้ว่าอิตาลีต้องจ่ายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงกว่า 7% แต่การที่อิตาลียังสามารถเข้าถึงแหล่งระดมทุนในตลาดการเงินได้นั้น ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงินของยุโรปเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.942 แสนล้านยูโร แม้ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2.035 แสนล้านยูโรก็ตาม

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ผันผวน โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านของสหรัฐ ร่วงลง 0.6% ในเดือนก.ย. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 56 จุดในเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ 40.9 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 44.0 ในเดือนพ.ย.

นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมรมว.คลังยูโรโซนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะเร่งหาแนวทางควบคุมปัญหาหนี้สาธารณะและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงิน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ,ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ