นายเด๊ดดี ซาเลห์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายการค้าต่างประเทศ กระทรวงการค้าของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียตัดสินใจคงอัตราภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มสำหรับเดือนธันวาคมไว้ที่ 15% เท่ากับในเดือนพฤศจิกายน
นายซาเลห์กล่าวว่า ราคาอ้างอิงน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1,041.56 ดอลลาร์ต่อตัน หลังจากที่แตะระดับ 938 ดอลลาร์ต่อตันในเดือนตุลาคม
"ดังนั้น รัฐบาลจึงคงภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มสำหรับเดือนธันวาคมไว้ที่ 15%" เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินโดนีเซียกำหนดอัตราภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มไว้ที่ระดับ 16.5% ในเดือนตุลาคม หลังราคาอ้างอิงในเดือนกันยายนแตะที่ระดับ 1,001 ดอลลาร์ต่อตัน
ทั้งนี้ กระทรวงการค้าและกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียจะร่วมกันกำหนดอัตราภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มสำหรับเดือนถัดไปโดยใช้ราคาอ้างอิงในปัจจุบันเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจ โดยเจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียใช้กลไกภาษีส่งออกเพื่อควบคุมปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังต่างประเทศ และเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มปลายน้ำภายในประเทศ รวมทั้งควบคุมราคาน้ำมันปรุงอาหารภายในประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่ไม่สดใสอาจส่งผลให้อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์จากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ลดลง อย่างไรก็ดี คาดว่าภาวะดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันปาล์มมากนัก เนื่องจากน้ำมันปาล์มเป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับหลายอุตสาหกรรม
ในฐานะที่เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก อินโดนีเซียมีเป้าหมายเพิ่มผลผลิตน้ำมันปาล์มด้วยการเพิ่มผลิตภาพและขยายพื้นที่เพาะปลูก สำนักข่าวซินหัวรายงาน