(เพิ่มเติม) พาณิชย์เผย CPI เดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 4.19%,Core CPI เพิ่มขึ้น 2.9%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 1, 2011 12:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI)เดือน พ.ย.54 อยู่ที่ 113.31 เพิ่มขึ้น 4.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.54 ส่งผลให้ CPI เฉลี่ย 11 เดือนของปีนี้(ม.ค.-พ.ย.54) เพิ่มขึ้น 3.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ(Core CPI) เดือน พ.ย.54 อยู่ที่ 109.86 เพิ่มขึ้น 2.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.54 ส่งผลให้ Core CPI เฉลี่ย 11 เดือนของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นอยู่ที่ 137.42 เพิ่มขึ้น 10.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.54 ราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์จากแป้ง สัตว์น้ำ ไข่ไก่ ผักสด อาหารสำเร็จรูป วัสดุก่อสร้าง แต่มีราคาสินค้าบางรายการปรับตัวลดลง เช่น เนื้อสุกร ข้าวสารเหนียว น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าผ่านทางพิเศษ

ส่วนดัชนีราคาหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 99.55 เพิ่มขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.01% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.54

นายรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้แหล่งผลิตสินค้าและอุตสาหกรรมจำนวนได้รับความเสียหาย ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับมีอุปสรรคในเรื่องการขนส่งสินค้า ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นแต่ไม่มากนัก เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนลดลง

โดยอัตราเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค.54 ถึงไตรมาสแรกของปี 55 จะมีแนวโน้มลดลง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.6% เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาลง เพราะใกล้สิ้นสุดช่วงฤดูหนาวของสหภาพยุโรปและสหรัฐ ประกอบกับสถานการณ์อุทกภัยในประเทศเริ่มคลี่คลาย และแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 54 จะอยู่ที่ระดับ 3.8% ส่วนในปี 55 จะอยู่ในช่วง 3.3-3.8% ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบอยู่ที่ 95-115 ดอลลาร์/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 29-33 บาท/ดอลลาร์ และรัฐบาลยังคงขยายเวลามาตรการลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปีนั้น กระทรวงพาณิชย์คาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงอีกในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ