เครือข่ายต้านคอรัปชั่นเปิดแผนปี 55 เกาะติดถุงยังชีพ-การฟื้นฟู-ปล้นบ้านปลัดฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 1, 2011 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธาน ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.) เปิดเผยว่า แผนการทำงานของ ภตค. ในปี 55 ยังคง 3 บทบาทการเฝ้าระวัง (Watchdog) ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) และการประสานร่วมมือกับภาครัฐ (Collaborator) ประเดิมด้วยการเฝ้าระวังเกาะติดโครงการฟื้นฟูหลังมหาอุทกภัย ซึ่งมีงบสูงถึง 8 แสนล้านบาท

ภตค. จะเข้าไปเฝ้าระวังได้แก่ ถุงยังชีพ โครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งเรื่องที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง กรณีการปล้นบ้านอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม และทุกครั้งหากเกิดประเด็นร้อนในสังคม จะมีการรวบรวมผู้นำและผู้รู้ในวงการเพื่อที่จะร่วมจัดเวทีแสดงความคิดเห็นเพื่อทำหน้าที่ Watch Dog ไม่ให้เรื่องหายไปจากกระแส

สำหรับการดำเนินการภายในองค์กรจะมีการแบ่งประเด็นในองค์กรสมาชิก ภตค เพื่อช่วยตามเกาะติดเพื่อไม่ให้เรื่องเงียบไปเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต เรายังจะมีการร่วมกับองค์กรสื่อมวลชนเพื่ออบรมอาสาสมัครให้เป็น Watchdog ที่ดี รู้วิธีการตรวจสอบอย่างถูกต้องเที่ยงธรรมอีกด้วย"

"ส่วนของการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ภตค. ได้ร่วมมือกับโครงการ “คนไทย “จัดโครงการ Clean Thailand DIY กิจกรรมนำร่อง เพื่อเปิดเวทีให้ภาคเอกชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชั่นได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมกันนำเงินทุกบาททุกสตางค์ไปฟื้นฟูประเทศไทยกลับสู่ดินแดนที่น่าอยู่อีกครั้ง ด้วยการสมัครใจ ดำเนินงานอย่างโปร่งใส ซึ่งโครงการนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ที่หอการค้าแห่งประเทศไทย" นายประมนต์ กล่าว

นายวิเชียร พงศธร ประธานมูลนิธิคนไทย กล่าวว่า การร่วมมือกับ ภตค.จะเป็นตัวอย่างและช่วยกระตุ้นให้ประชาชนชาวไทยได้มีแนวคิดใหม่ว่า การคอร์รัปชั่นใดๆล้วนเป็นตัวถ่วงให้ประเทศชาติเจริญ และท้ายที่สุดนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรม ในบทบาทของการเป็น Collaborator ภตค. ได้ประสานงานกับ ปปช ในการผลักดันเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งคณะกรรมการ ปปช.จะประกาศเรื่องการแสดงรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ เลื่อนจากเดิมในวันที่ 1 มกราคม 55 ไปเป็นวันที่ 1 เมษายน 55 วงเงินที่กำหนดให้เอกชนต้องยี่นแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการรัฐเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมกำหนดวงเงินโครงการ 5 แสนขึ้นไป ในช่วงปีแรกนับจากวันประกาศ

รศ.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีทัศนะต่อภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นไทย หรือ THAI CPI (Thai Corruption Perception Index) ทั้งดัชนีในปัจจุบันและในอนาคตของเดือนนี้มีตัวเลขที่ต่ำลง แสดงถึงภาพลักษณ์ของสถานการณ์ที่แย่ลง โดยดัชนีในปัจจุบันปรับตัวลดลง จาก 65.4 ในเดือนที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 64.4 ในเดือนนี้ ส่วนดัชนีในอนาคตปรับตัวลดลง จาก 93.9 ในเดือนที่ผ่านมา เป็น 90.8 ในเดือนนี้

นอกจากนี้ จากการสำรวจทัศนะของประชาชน 1,200 ตัวอย่างต่อปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในเดือนพฤศจิกายน 2554 พบว่า กลุ่มตัวอย่างถึง 72.4% คิดว่าปัญหาคอร์รัปชั่นของไทย มีมาก และ 63.1% คิดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีหน้า

ส่วนทัศนะเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของภาครัฐในช่วงน้ำท่วม กลุ่มตัวอย่าง 69.8% เชื่อว่ามีโอกาสเกิดการคอร์รัปชั่นขึ้น รวมทั้งยังมีความเป็นห่วงในการใช้งบประมาณของรัฐ ในการฟื้นฟูเยียวยาประเทศจากวิกฤตน้ำท่วมในอนาคต โดย 35.8% และ 29.2% คาดว่ามีโอกาสเกิดการคอร์รัปชั่นได้มากและมากที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ