สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าสเปนและฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนจับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3457 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธ 1.3441 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.720 เยน จากระดับ 77.500 เยน และดีดตัวขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9155 ฟรังค์ จากระดับ 0.9131 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.48% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0226 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0275 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7796 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่าสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรได้ 3.7 พันล้านยูโร (5.1 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ และยอดการสั่งจองพันธบัตรสูงกว่าจำนวนพันธบัตรที่จำหน่ายมากกว่า 2 เท่า
ขณะที่ฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรได้ 4.346 พันล้านยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ 4.5 พันล้านยูโร นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของฝรั่งเศสยังปรับตัวลดลง ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปด้วย
การประมูลขายพันบัตรของสเปนและฝรั่งเศสถือเป็นการทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมด้วยธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางชั้นนำของโลกอีก 4 แห่ง ได้พร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปดอลลาร์ลง 0.50% เพื่อให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ซึ่งจะทำให้ธุรกรรมการกู้ยืมในตลาดการเงินคล่องตัวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน ร่วงลงสู่ระดับ 46.4 จุดในเดือนพ.ย. จาก 47.1 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งตัวเลขที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 402,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 396,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือนที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐพุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 400,000 ราย
การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานทำให้นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 122,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 9.0% ในเดือนพ.ย.