สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย.ที่ร่วงลงเกินคาดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 32 เดือน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมเพื่อควบคุมวิกฤตหนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,751.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1741.70 - 1767.10 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 7.3 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 32.686 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 3.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 3.5845 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,548.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 15.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 645.85 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองปีครึ่งที่ 8.6% จากระดับ 9% ในเดือนต.ค. ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 120,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งข้อมูลล่าสุดนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังค่อยๆปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ทั้งนี้ อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตการเงินทวีความรุนแรงสูงสุด และดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 9% ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเดือนที่แล้วสอดคล้องกับการคาดการณ์
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุน หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่า ธนาคารอาจดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อคลี่คลายวิกฤตหนี้ในภูมิภาค โดยมีข้อแม้ว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรจะต้องเห็นพ้องต้องกันในการสนับสนุนแผนการที่จะควบคุมการใช้จ่าย
นักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่า การใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น เทียบได้กับการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลดีต่อทองคำ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ เนื่องจากราคาทองคำซึ่งซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์จะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ