นายเฉิน เต๋อหมิง รัฐมนตรีพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า การค้าระหว่างจีนและสหรัฐเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.63 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วงสิบเดือนแรกของปีนี้ ส่งผลให้จีนและสหรัฐต่างเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของแต่ละฝ่าย
นายเฉินกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำซึ่งจัดโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศจีน (AmCham-China) เมื่อคืนนี้ว่า การค้าระหว่างจีนและสหรัฐมีแนวโน้มที่จะสูงกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า จากการคาดการณ์โดยกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีน
นอกจากนี้ รมว.พาณิชย์จีนยังกล่าวด้วยว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะสูงกว่า 9% ในปีนี้ และคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่า 5% เล็กน้อย ซึ่งเหนือกว่าเป้าหมายที่ 4% ของรัฐบาล
ทั้งนี้ การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนชะลอตัวสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปีที่ 9.1% ในไตรมาสสามปีนี้ ลดลงจาก 9.5% ในไตรมาสสอง และ 9.7% ในไตรมาสแรก
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก ปรับตัวขึ้น 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ชะลอตัวจาก 6.5% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 37 เดือน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า CPI เดือนพ.ย. ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์หน้า จะลดลงต่ำกว่า 5% สำนักข่าวซินหัวรายงาน