พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหารือร่วมกับ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรณีสัญญาบริหารตลาดนัดจตุจักรของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 1 ม.ค. 55 ว่า ขณะนี้ได้ให้นโยบาย รฟท. เดินหน้าเข้าไปบริหารเอง ในระหว่างรอจัดตั้งบริษัท ตลาดนัดจตุจักร รฟท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. เข้ามาบริหารตลาดแห่งนี้ และมีแผนที่จะพัฒนาปรับโฉมตลาดให้มีความทันสมัย สะอาด รวมทั้งจัดทำเป็นวอลค์กิ้ง สตรีท ส่วนอัตราค่าเช่า จะอยู่ที่ 4,000 บาทต่อแผง ซึ่งเป็นอัตราค่าเช่าที่ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ หรือเก็บใต้โต๊ะอีก
ทั้งนี้ ขั้นตอนการขออนุมัติจัดตั้งบริษัทลูกนั้น ต้องขอความเห็นชอบผ่านคณะกรรมการ รฟท. และเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นในช่วง 2 — 3 เดือนแรก การบริหารงานอาจยังไม่เข้าระบบเต็มที่ ทำให้สูญเสียรายได้บางส่วน แต่มั่นใจว่าในระยาว รฟท. จะมีผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพเข้ามาจัดการแผนการตลาด รฟท. จะมีรายได้คุ้มค่าอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความวุ่นวาย จะให้สิทธิกับผู้เช่ารายเดิมที่มีสัญญาเช่ากับ กทม. ให้ได้สิทธิในการทำสัญญากับ รฟท. แม้ว่า หลายรายจะไม่ใช่ผู้ค้าโดยตรง แต่เป็นเจ้าของแผงที่ปล่อยให้เช่าเหมาช่วงก็ตาม เพราะหากไปเปลี่ยนแปลงใหม่จะยิ่งทำให้เกิดวุ่นวาย ในขณะเดียวกันก็มีการเปิดให้ผู้เช่ารายใหม่ได้สิทธิในการทำสัญญาเช่าโดยตรงกับ รฟท.ด้วย
สำหรับอัตราค่าเช่าเบื้องต้น แผงขนาด 2 x 2.5 เมตร นั้น อัตราค่าเช่าที่เหมาะสมจาก 400 — 500 บาทเดิม จำเป็นต้องปรับให้เหมาะสม ที่คิดไว้เบื้องต้น 4,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราค่าเช่าที่จ่ายให้กับ รฟท. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก ที่ผ่านมาทราบว่า กทม. มีการเรียกเก็บค่าเช่าและมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ อัตรารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 — 17,000 บาท หรือบางรายต้องเสียค่าเซ้งแผงในอัตราตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน ก็มี
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ในอนาคต รฟท. มีแผนที่จะปรับปรุงตลาดให้มีสุขลักษณะที่ดี เพราะปัจจุบันมีสภาพที่สกปรก ไม่เป็นระเบียบ ไม่ตรงกับสุขลักษณะ ดังนั้น จะต้องมีการปรับปรุงและจัดระเบียบการจัดการ โดยใช้งบประมาณที่ รฟท.จัดเก็บอัตราค่าเช่าที่กำหนด ซึ่งมีแผงทั้งสิ้นกว่า 8 พันแผง หากเก็บค่าเช่า 3,500 — 4,000 บาท จะทำให้ รฟท.มีรายได้ 420 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะนำเงินเหล่านี้มาพัฒนาปรับปรุงตลาดให้ดีขึ้นได้
"ที่ผ่านมา รฟท.ให้ กทม.เช่าที่ดินจตุจักรในอัตราที่น้อยมาก ดังนั้นอัตราที่จะเรียกเก็บนั้นเชื่อว่าจะไม่สูงกว่าอัตราที่ผู้ค่าแต่ละรายจะต้องจ่ายให้กับ กทม. ดังนั้นต้องขอให้ผู้ค้าได้เข้าใจว่า ขอเก็บในอัตราที่สอดคล้องกับสภาวะของตลาดในปัจจุบันด้วย ขนาดตลาดสกปรกแผงก็ไม่ใหญ่แต่มีการเซ้งกันถึง 3 ล้านบาททีเดียว แสดงว่าตลาดนี้เป็นที่ต้องการมาก" พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว