สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศให้ "เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ" ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศกลุ่มยูโรโซน รวมถึง 6 ประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA (เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฟินแลนด์ และลักเซมเบิร์ก ) เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจและความยุ่งยากทางการเมืองในยูโรโซนได้ทวีความรุนแรงขึ้น
การให้เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ หมายความว่ามีโอกาสถึง 50% ที่ประเทศเหล่านี้จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภายใน 90 วันข้างหน้า
เอสแอนด์พีกล่าวในแถลงการณ์ล่าสุดว่า "การให้เครดิจพินิจในครั้งนี้เป็นเพราะเราเชื่อว่า ความตึงเครียดในเชิงระบบของยูโรโซนได้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและกำลังเพิ่มแรงกดดันให้กับสถานะด้านความน่าเชื่อถือของทุกประเทศในกลุ่มยูโรโซน"
"ความตึงเครียดในเชิงระบบเหล่านี้ เป็นผลมาจากภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ, ต้นทุนการรับประกันความเสี่ยงที่สูงขึ้น, ความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันของบรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของยุโรป, หนี้สินของรัฐบาลและภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงมาก และเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงจะเผชิญกับภาวะถดถอย" เอสแอนด์พีกล่าว
เอสแอนด์พีระบุว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนอาจจะขึ้นอยู่กับผลการประชุมสหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
แถลงการณ์ของเอสแอนด์พีระบุว่า เอสแอนด์พียังคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบสำหรับไซปรัส และไม่ได้ให้เครดิตพินิจแก่กรีซ
นอกจากนี้ เอสแอนด์พีเตือนว่า เอสแอนด์พีอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเยอรมนี, ออสเตรีย, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ลง 1 ขั้น และอาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซนลง 1 หรือ 2 ขั้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน