สมาคมประกันชีวิตไทยเปิดเผยว่าเบี้ยประกันชีวิตรับ 10 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ต.ค.54)ทั้งสิ้น 263,318.0 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.1 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 80,712.7 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 182,605.2 ล้านบาท อัตราความคงอยู่ร้อยละ 87
นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า สถิติเบี้ยประกันชีวิตรับ ณ สิ้นเดือน ต.ค.54 ที่รวบรวมได้ในขณะนี้ประกอบด้วย เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก 54,950.9 ล้านบาท เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว 25,761.9 ล้านบาท รวมเป็น เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 80,712.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนจำนวน 7,680.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.5 สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 182,605.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนจำนวน 20,780.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.8 มีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 87 รวมทั้งภาคธุรกิจมีเบี้ยประกันชีวิตรับ ทั้งสิ้น 263,318.0 ล้านบาท อัตราการเติบโตร้อยละ 12.1
เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค.ร้อยละ 10.5 และเบี้ยประกันชีวิตรับรวมเติบโตถึงร้อยละ 12.1 นั้น ยังคงเป็นสัญญาณที่ดีของภาคธุรกิจประกันชีวิต ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาไทยจะเกิดวิกฤตมหาอุทกภัยขึ้นก็ตาม แต่ธุรกิจประกันชีวิตไทยยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าประชาชนตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการประกันชีวิตมากขึ้น ส่วนลูกค้าเก่าก็ยังคงชำระเบี้ยประกันชีวิตต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตถึงร้อยละ 87
สถานการณ์ในขณะนี้ (เดือน ธ.ค.) ปัญหาน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายแล้ว ช่องทางการขายต่างๆสามารถดำเนินการได้ตามปกติ จึงคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ทุกบริษัทจะเร่งสร้างผลงานอย่างเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทำประกันชีวิตเพื่อสร้างความคุ้มครองแก่ชีวิตของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน อีกทั้งยังสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีจากกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ 200,000 บาทและแบบอื่นๆอีก 100,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาทได้อีกด้วย
ทั้งนี้ สถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันชีวิตเช่นกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆแล้ว นับได้ว่าน้อยมาก จึงคาดว่าเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นปี 54 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 อย่างแน่นอน