ต้นทุนการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้ตราสารของธนาคารรายใหญ่ในยุโรป ซึ่งรวมถึงดอยช์ แบงก์ ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศให้ "เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ" ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศกลุ่มยูโรโซน
มาร์กิตเปิดเผยว่า ตราสาร CDS (credit default swap) ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ที่ใช้รับประกันการผิดนัดชำระหนี้ ของธนาคารรายใหญ่ในยุโรป ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยตราสาร CDS อายุ 5 ปีของดอยช์ แบงก์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.10% ขณะที่ตราสาร CDS ของธนาคารคอมเมิร์ซ แบงก์ เพิ่มขึ้น 2.80% ตราสาร CDS ของเครดิต อะกริโคล เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.40% และตราสาร CDS ของบีเอ็นพี พาริบาส์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.39% มีเพียงตราสาร CDS ของโซซิเอเต เจเนราล (ซอคเจน) เท่านั้นที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 2.92%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอสแอนด์พี ประกาศให้ "เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ" ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศกลุ่มยูโรโซน รวมถึง 6 ประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA (เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ฟินแลนด์ และลักเซมเบิร์ก ) ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสถึง 50% ที่ประเทศเหล่านี้จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภายใน 90 วันข้างหน้า
เอสแอนด์พีระบุว่า การให้เครดิจพินิจในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากความตึงเครียดในเชิงระบบของยูโรโซนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ, ต้นทุนการรับประกันความเสี่ยงที่สูงขึ้น, ความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันของบรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของยุโรป, หนี้สินของรัฐบาลและภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงมาก และเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงจะเผชิญกับภาวะถดถอย
นอกจากนี้ การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนอาจจะขึ้นอยู่กับผลการประชุมสหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ด้วย