นายวูลฟ์กัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า การประกาศให้เครดิตพินิจเชิงลบแก่ 15 ประเทศยูโรโซนโดยบริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส อาจถือเป็นแรงกระตุ้นที่ดีที่สุดสำหรับผู้นำยุโรปที่จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการกู้วิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาคให้ได้ในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) วันศุกร์นี้
ทั้งนี้ เอสแอนด์พี ประกาศให้เครดิตพินิจเชิงลบแก่ 15 ประเทศในยูโรโซน ซึ่งรวมถึงเยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ฟินแลนด์ และลักเซมเบิร์ก ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดที่ AAA โดยการให้เครดิตพินิจเชิงลบ หมายความว่ามีโอกาสถึง 50% ที่ประเทศเหล่านี้จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภายใน 90 วันข้างหน้า
รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดวันศุกร์นี้ ต้องมีการลงมือดำเนินการเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน
"ทางออกของวิกฤตนี้ต้อง... สามารถตรวจสอบได้ น่าเชื่อถือ และสร้างความเชื่อมั่น" เขากล่าว "ความจริงคือ ตลาดทั่วโลกไม่ไว้วางใจยูโรโซนอีกแล้วในตอนนี้"
ก่อนหน้านี้ไม่นาน นายนอร์เบิร์ท บาร์ธเล ผู้ช่วยของนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก็เพิ่งออกมาแสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า คำเตือนของเอสแอนด์พีอาจช่วยให้นายกฯเยอรมนี และประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส สามารถผลักดันแผนการว่าด้วยการควบคุมวินัยการคลังของประเทศสมาชิกให้สำเร็จลุล่วงก็เป็นได้
การประกาศของเอสแอนด์พีมีขึ้นหลังจากที่ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสได้หารือร่วมกัน และเห็นพ้องกันว่า ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรทั้ง 17 ประเทศ ควรที่จะถูกตรวจสอบงบประมาณมากขึ้น และควรที่จะได้รับการลงโทษหากทำให้งบประมาณขาดดุลหรือฝ่าฝืนกฎระเบียบ พร้อมทั้งยังเห็นตรงกันว่า ควรมีการจัดทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมปีหน้า เพื่อรับประกันว่าวิกฤตหนี้สาธารณะจะไม่หวนกลับมาอีก