สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและเลือกที่จะถือเงินสดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศในยูโรโซน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.2% แตะที่ 1,731.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 37.2 เซนต์ ปิดที่ 32.744 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 3.5755 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,524 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 24.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 670.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำว่า ความวิตกกังวลที่ว่าประเทศยักษ์ใหญ่ในยูโรโซนจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้กดดันให้นักลงทุนพากันเทขายทองคำและถือเงินสดเอาไว้
เอสแอนด์พีประกาศให้ "เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ" ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศกลุ่มยูโรโซน รวมถึง 6 ประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA (เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ฟินแลนด์ และลักเซมเบิร์ก) โดยเตือนว่าอาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศในยูโรโซน หากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ ไม่มีความคืบหน้าในการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้
เทรดเดอร์กล่าวว่า โดยปกติแล้วนักลงทุนจะมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน แต่วิกฤตหนี้ยุโรปที่ทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลและเลือกที่จะถือสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า เช่นพันธบัตรสหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGBest ในเมืองชิคาโก คาดว่า นักลงทุนจะจับตาดูการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด โดยจะจับตาดูแผนการผนวกรวมนโยบายด้านการคลังของประเทศยูโรโซนมากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ดาลีกล่าวว่า การที่นักลงทุนบางกลุ่มเลือกที่จะเทขายทองคำก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้ นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย