ข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ซาอุดิอาระเบียสามารถผลิตน้ำมันในเดือนพ.ย. 2554 ได้มากขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และยังถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2523
นายอาลี อัล-ไนมิ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันซาอุดิอาระเบีย กล่าวขณะเข้าร่วมประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศในเมืองเดอร์แบน ประเทศแอฟริกาใต้ว่า "เราผลิตน้ำมันดิบ 10 ล้านบาร์เรล และ 40 บาร์เรลในเดือนพ.ย. 2554 เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า"
นายอัล-ไนมิ กล่าวว่า "ตลาดน้ำมันมีอุปสงค์อุปทานสมดุลกัน" ขณะเดียวกันซาอุด อาระเบียก็เตรียมคงกำลังการผลิตที่ระดับเดือนพ.ย. 2554 "หากความต้องการน้ำมันยังคงอยู่ในระดับที่เท่ากับเดือนที่แล้วในช่วงเดือนธ.ค."
"แนวโน้มของความต้องน้ำมันในปีหน้ายังอยู่ในเกณฑ์ดี" นายอัล-ไนมิกล่าว หากประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในกลุ่มโอเปคเช่นลิเบียและอิรักมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซาอุดิอาระเบีย จะปรับกำลังการผลิตของประเทศ
ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศทรงอิทธิพลในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เตรียมประชุมร่วมกับกลุ่มโอเปคในวันที่ 14 ธ.ค. 2554 ณ กรุงเวียนนา เพื่อกำหนดเป้าหมายการส่งออกน้ำมันในช่วงต้นปี 2555 ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยการหยุดชะงักของกำลังการผลิตน้ำมันในลิเบีย และเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
จากข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศนั้น ได้มีการเปิดเผยผลผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียต่อวันในเดือนต.ค. ก.ย. และส.ค. 2554 ซึ่งมีกำลังการผลิต 9.45 ล้านตัน 9.4 ล้านตัน และ 9.8 ล้านตันตามลำดับ แต่ยังไม่มีการประมาณการณ์ผลผลิตน้ำมันของเดือนพ.ย. 2554
ขณะที่กระทรวงพลังงานสหรัฐได้ออกรายงาน "Short-Term Energy Outlook" ว่า กำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียในเดือนพ.ย. 54 อยู่ที่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับการผลิตของเดือนต.ค. และก.ย. 2554