นายแอนดริว เคาโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐร่วมกับกลุ่มผู้นำของฝ่ายนิติบัญญัติ ประกาศว่า คณะผู้แทนได้บรรลุข้อตกลงในการเรียกเก็บภาษีเพิ่มจากกลุ่มประชากรที่ร่ำรวยของรัฐ ซึ่งครอบคลุมถึงการเก็บภาษีเพิ่มในกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูงของรัฐ และลดภาษีให้กับกลุ่มชนชั้นกลาง
การกำหนดจัดเก็บอัตราภาษีแบบขั้นบันไดเช่นนี้ มีเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งในระดับรัฐและระดับประเทศ และเพื่อหลีกเลี่ยงการปรับลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในด้านการศึกษา
นายเคาโมกล่าวในแถลงการณ์ว่า "นี่เป็นอัตราภาษีที่ต่ำที่สุดสำหรับครอบครัวชนชั้นกลางในรอบ 58 ปี โดยแผนการสร้างงานในครั้งนี้ จะช่วยผ่าทางตันทางการเมืองที่ส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลสหรัฐต้องสะดุดลง และแสดงให้เห็นว่า เราสามารถทำให้รัฐบาลกลับมาทำงานเพื่อประชาชนของรัฐนิวยอร์กได้อีกครั้ง"
ทั้งนี้ นโยบายภาษีของรัฐนิวยอร์กในปัจจุบันกำหนดให้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ตั้งแต่ 20,000 ดอลลาร์ขึ้นไป และคู่สมรสที่มีรายได้ตั้งแต่ 40,000 ดอลลาร์ขึ้นไป ต้องเสียภาษีร้อยละ 6.85 ในขณะที่บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์ขึ้นไป และคู่สมรสที่มีรายได้ตั้งแต่ 300,000 ดอลลาร์ขึ้นไป จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมในชื่อว่า "ภาษีคนรวย" และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2554 นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเคาโมมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการจัดทำงบประมาณแบบอนุรักษ์นิยมที่สามารถแก้ปัญหางบประมาณขาดดุลจำนวน 1 หมื่นล้านดอลลาร์และปรับลดค่าใช้จ่ายลงโดยไม่ต้องเก็บภาษีเพิ่ม