นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ในเดือนพ.ย.54 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เป็นนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัดทั่วประเทศ 2,940 ราย ลดลง 1,818 ราย หรือลดลง 38% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.53 ที่มีจำนวน 4,758 ราย และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนต.ค.54 ลดลง 583 ราย หรือลดลง 16%
ส่วนเงินทุนจดทะเบียนธุรกิจใหม่มี 17,001 ล้านบาท โดยนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 299 ราย บริการนันทนาการ 236 ราย และอสังหาริมทรัพย์ 174 ราย ขณะที่ยอดรวมจดทะเบียนตั้งใหม่ช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปีนี้มี 52,853 ราย เพิ่มขึ้น 5,189 ราย หรือเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่ก่อนที่มี 47,664 ราย
สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศ ในเดือน พ.ย.54 มี 1,020 ราย มีเงินทุนจดทะเบียน 5,347 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.53 ที่จดทะเบียนเลิก 662 ราย ถือว่าเดือนพ.ย.จดทะเบียนเลิกเพิ่มขึ้น 358 ราย หรือ 54% และเพิ่มขึ้น 210 ราย หรือ 25% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.54 ที่จดท เบียนเลิก 810 ราย ขณะที่ยอดรวม 11 เดือน ปี 54 มีจดทะเบียนเลิก 6,691 ราย กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมี 5,511 ราย เพิ่มขึ้น 1,180 ราย คิดเป็น 21% โดยธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 101 ราย อสังหาริมทรัพย์ 59 ราย บริการด้านธุรกิจอื่น 30 ราย
"สาเหตุที่ทำให้ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนพ.ย.54 ลดลง และมีการยกเลิกจดทะเบียนเพิ่มขึ้น เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำ ทำให้ไม่สามารถมาจดทะเบียนได้ แต่คาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 1-2 ปีหน้า ยอดการจัดตั้งธุรกิจใหม่น่าจะมีเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ"นายศิริวัฒน์กล่าว
นายศิริวัฒน์ กล่าวต่อถึงผลการตรวจสอบนิติบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 39 จังหวัดว่า มีนิติบุคคลรวม 373,476 ราย คิดเป็น 73% ของนิติบุคคลรวมทั้งประเทศกว่า 500,000 ราย ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ด้วยการผ่อนผันการปฏิบัติตามกฎหมาย ในเรื่องของการจดทะเบียนธุรกิจ ก รส่งงบการเงินและการยื่นเอกสารทางบัญชี เป็นต้น