Analysis: นักวิเคราะห์ชี้เงินหยวนอ่อนค่าลงเป็นปฏิกริยาที่ปกติในตลาด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 7, 2011 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์เผยเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างมากของจีนในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมานั้น ถือเป็นปฏิกริยาที่ปกติของตลาดที่มีต่อยอดเกินดุลการค้าที่ร่วงลงของจีน พร้อมกับคาดการณ์ว่า เงินหยวนจะยังคงมีมูลค่าที่สมดุลต่อไปในระยะยาว

เงินหยวนร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดของการซื้อขายรายวันเป็นเวลา 5 วันติดต่อกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยในการซื้อขายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ค่ากลางของเงินหยวนต่อดอลลาร์อยู่ที่ 6.3651 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ตรงกันข้ามกับช่วงก่อนวันพุธที่แล้วที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายผู หงผิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซี ไชน่า กล่าวว่า ยอดเกินดุลการค้าที่ลดลงทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงในช่วงนี้

ข้อมูลจากศุลกากรชี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนลดลง 36% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ด้านนางจาง โมหนาน นักวิจัยของศูนย์กลางข้อมูลรัฐบาล มองว่า การวิตกกังวลมากจนเกินไปเกี่ยวกับเงินหยวนที่อ่อนค่าลงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เนื่องจากกระแสมูลค่าเงินหยวนในระดับปานกลางสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกในตลาดที่ว่า เศรษฐกิจจีนมีโครงสร้างที่สมดุลมากขึ้น

ยอดดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนคิดเป็นสัดส่วน 2.8% ของจีดีพีในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งต่ำกว่า 10% ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2551 และยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่ามาตรฐานเฉลี่ยทั่วโลกที่ 4%

รายงานของศูนย์วิจัยการเงินของธนาคารกลางเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 30.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือนก.ค. 2548 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนเริ่มปฏิรูปกลไกเกี่ยวกับสกุลเงินของประเทศ

แต่การดำเนินการดังกล่าวก็ไม่สามารถหยุดยั้งประเทศตะวันตกไม่ให้ร้องเรียนในประเด็นที่ว่า รัฐบาลจีนจงใจปั่นค่าเงินหยวนให้ต่ำเกินจริง เพื่อความได้เปรียบด้านการค้า

นายจาง ผิน นักวิจัยของสถาบันสังคมศาสตร์จีน (CASS) กล่าวว่า แนวโน้มของเงินหยวนที่อ่อนค่าลงชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกเหนือไปจากเหตุผลภายในประเทศแล้ว เราไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า การที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้เงินหยวนถูกเทขายออกมาอย่างหนัก

ด้านดีลเลอร์ของแบงก์ ออฟ ไชน่า กล่าวว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุดลงนั้น ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง ในขณะที่สกุลเงินต่างๆอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวมาอยู่ที่ 80 จากระดับ 74 มาตั้งแต่ช่วงกลางปี

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่เงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างมาก จะไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนมากนัก

กัว เทียนหยง ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย Central University of Finance and Economics กล่าวว่า เงินหยวนที่อ่อนค่าลงอาจจะทำให้เงินทุนไหลออกจากประเทศจีน ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านราคาสินทรัพย์ภายในประเทศ

ส่วนหยู หยิง อดีตสมากชิกของคณะกรรมการด้านนโยบายเงินตราของธนาคารกลางจีน ซึ่งได้เขียนบทความที่ได้มีการตีพิมพ์ไปเมื่อเร็วๆนี้ว่า เงินหยวนที่อ่อนค่าลงกว่าเดิมจะลดแรงกดดันในการจัดการกับทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ