นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมยางพาราจากประเทศจีนแสดงความสนใจที่จะนำภาคเอกชนมาลงทุนในไทย เพื่อตั้งโรงงานผลผลิตภัณฑ์ยางพารา และสนใจลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปผลิตยางแท่งที่ จ.สุราษฎร์ธานีและอุดรธานี ซึ่งคาดว่าแต่ละแห่งจะใช้น้ำยางดิบประมาณ 3 หมื่นตันต่อปี
มณฑลไห่หนานเป็นฐานการผลิตยางพารารายใหญ่อันดับสองของจีนรองจากมณฑลยูนนาน และยังเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพาราอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ยางรถยนต์ ถุงมือยาง และสายพานเคลื่อนย้ายสินค้า เป็นต้น โดยมีสำนักงานกรรมสิทธิ์ที่ดินมณฑลไห่หนาน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าทางการเกษตรของรัฐรายใหญ่แห่งหนึ่งสามารถผลิตยางพาราธรรมชาติได้กว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณยางพาราที่ผลิตได้ทั้งหมดในมณฑล
ทั้งนี้ รัฐบาลมณฑลไห่หนานได้มีการจัดตั้ง Hainan Agricultual Rubber Corporation เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยางธรรมชาติของมณฑล โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบมาตรฐานสินค้า การพัฒนาการผลิต รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศในอนาคต รัฐบาลมณฑลไห่หนานได้จัดตั้งเขตอุตสาหกรรมยาง “Chaoqun Rubber Industrial Zone" มูลค่า 150 ล้านหยวนขึ้นในเมืองชิงไห่ มีเป้าหมายเพื่อผลิตยางสำเร็จรูปจำนวน 50,000 ตันจากยางธรรมชาติที่ปลูกในไห่หนานเอง รวมทั้งที่นำเข้าจากประเทศใกล้เคียง เช่น เวียดนาม พม่า และไทย การผลิตยางในเขตนี้จะเป็นการป้อนให้แก่โรงงานของ Michelin
นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึงปัญหาที่จีนชะลอการรับซื้อยางพาราในช่วงนี้ ซึ่งส่งผลให้ราคายางพาราปรับตัวลดลง ซึ่งทางจีนได้ชี้แจงว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่สถาบันการเงินและบริษัทเอกชนของจีนอยู่ระหว่างการปิดบัญชีประจำปีทำให้การเบิกจ่ายล่าช้าและเป็นผลให้การทำธุรกิจซื้อขายยางลดลง แต่เชื่อว่าหลังจากตรุษจีนเป็นต้นไปการสั่งซื้อยางพาราของจีนจะเพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้ราคายางพาราขยับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ในแต่ละปีจีนมีความต้องการยางพาราเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆสูงถึงปีละ 4 ล้านตัน ผลิตภายในประเทศได้เพียง 6 แสนตันต่อปี ขณะที่ไทยส่งออกยางไปจีนได้เพียงปีละประมาณ 1.2 ล้านตัน ซึ่งจีนยังคงต้องการการนำเข้ายางพาราอีกมาก