นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ตั้งเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 55 ไว้ที่ 15% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.24 แสนล้านดอลลาร์ โดยเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้โรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 90% ที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วมจะสามารถฟื้นฟูและกลับมาเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ ส่วนโรงงานที่เหลือคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ราวต้นปี 55 ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกสินค้ากลับมาเป็นปกติในปีหน้า
อย่างไรก็ดี ยังมั่นใจว่าจะไม่มีการปรับเป้าหมายการส่งออกให้ลดลงไปจากนี้ ซึ่งหากจะทบทวนจริงก็น่าจะเป็นโอกาสของการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า
นอกจากนี้ คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้อนุมัติงบประมาณในการจัดทำโครงการส่งเสริมการส่งออกปี 55 จำนวน 329 โครงการ มูลค่า 332 ล้านบาท
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้ในโครงการต่างๆ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าไทย การจัดคณะผู้แทนการค้า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เสนอโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย จำนวน 54 โครงการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้เอกชนไปพิจารณาโครงการส่งเสริมการส่งออกที่ยังค้างอยู่จำนวน 38 โครงการ วงเงินกว่า 40 ล้านบาท แล้วให้เสนอเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองก่อนที่จะเสนอให้คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศพิจารณาอนุมัติอีกครั้งในวันที่ 27 ธ.ค.54
อนึ่ง ปัจจุบันกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีเงินกองทุนอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท
นายกิตติรัตน์ ยังคาดว่าโดยพื้นฐานแล้วเศรษฐกิจไทยในปี 55 จะเติบโตได้ 5.5% และมีโอกาสที่จะเติบโตได้ถึง 7% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น จากนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มกำลังซื้อผ่านการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ