สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศ "เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ" ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และธนาคารรายใหญ่บางแห่งของยุโรป โดยเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่เอสแอนด์พีจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภายใน 90 วันข้างหน้า หากผู้นำอียูไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะได้
เอสแอนด์พีเตือนว่า ออสเตรีย, เบลเยียม, ฟินแลนด์, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก อาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น ส่วนเอสโทเนีย, ฝรั่งเศส, ไอร์แลนด์, อิตาลี, มอลทา, โปรตุเกส, สาธารณรัฐสโลวัก, สโลวาเนีย และสเปน อาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีระบุว่า การตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ "มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นทันที" ภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในครั้งนี้
นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังได้ประกาศเครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่บางแห่งของยุโรป โดยเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์, ดอยช์ แบงก์, ยูนิเครดิต, ฟอร์ติส แบงก์, คอมเมิร์ซแบงก์, เครดิต อากริโคล และอินเทซา ซานเปาโล พร้อมกับเตือนว่าอาจจะมีการให้เครดิตพินิจต่ออันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่รายอื่นๆ อีก
เอสแอนด์พีระบุว่า การประกาศเครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศมาชิกอียูในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเอสแอนด์พีวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยูโรโซนในวันข้างหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน