World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2554

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 8, 2011 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศ "เครดิตพินิจ แนวโน้มเชิงลบ" ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และธนาคารรายใหญ่บางแห่งของยุโรป โดยเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่เอสแอนด์พีจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภายใน 90 วันข้างหน้า หากผู้นำอียูไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะได้

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่น ซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรที่ใช้ในอตุสาสหกรรมเดินเรือและสาธารณูปโภค หดตัวลง 6.9% ในเดือนต.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.874 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนของญี่ปุ่นลดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าทุน

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในสหรัฐประจำเดือนต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.7% ต่อปี สู่ระดับ 2.4575 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จากตัวเลขเดือนก.ย.ที่ปรับทบทวนแล้วที่ระดับ 2.4498 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดสินเชื่อและยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ระดับ 3.25% ในเดือนธันวาคม ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย repo ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐได้หารือทางโทรศัพท์กับนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาวิกฤติหนี้ในประเทศกลุ่มยูโรโซน

-- นายหยาง จีฉี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนมีความเชื่อมั่นในยุโรปและสกุลเงินยูโร และจะสนับสนุนความพยายามในการแก้วิกฤตหนี้สินของสหภาพยุโรป (อียู) อย่างต่อเนื่อง

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ 6% ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะประเมินความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ขณะที่เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง

-- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 2.5% โดยนายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวว่า ธนาคารกลางได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเอาไว้ที่ 2.5% เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนในทั่วโลกและอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัวเพียงเล็กน้อย

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.ของออสเตรเลีย ปรับตัวลง 6,300 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.3% จากระดับ 5.2% เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาทำให้ภาคเอกชนลดการจ้างงานพนักงานเต็มเวลาในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.

-- ต้ากง โกลบอล เรทติ้ง ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศของฝรั่งเศส ลงสู่ระดับ A+ จากระดับ AA- โดยให้แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซา ประกอบกับสัดส่วนหนี้สินของรัฐบาลที่อยู่ในระดับสูง ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤตหนี้ยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ