ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหลังอีซีบีส่งสัญญาไม่ซื้อพันธบัตรเพิ่ม

ข่าวต่างประเทศ Friday December 9, 2011 07:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนด้วยการประกาศว่า อีซีบียังไม่มีแผนเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ยูโรสามารถดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเทขายสกุลเงินยูโรก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในวันศุกร์

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.51% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3343 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3412 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดิ่งลง 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5639 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5710 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.690 เยน จากระดับ 77.660 เยน และดีดตัวขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9257 ฟรังค์ จากระดับ 0.9236 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 1.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0167 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0286 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 0.7792 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากอีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1% พร้อมประกาศว่าอีซีบียังไม่มีแผนเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมในปริมาณมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า อีซีบีจะเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน

นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีเปิดเผยว่า การที่อีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ เป็นมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในระยะใกล้นี้ นอกจากนี้ นายดรากิกล่าวว่า สนธิสัญญาของอียูจะขัดขวาง "การให้การสนับสนุนทางการเงิน" ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังในเรื่องการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบีในอนาคต

ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงแม้ว่าธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ธ.ค.ลดลง 23,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 381,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 404,000 ราย

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทค้าส่งของสหรัฐเชื่อมั่นว่าความต้องการของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

นักลงทุนจับตาดูการประชุมสุดยอดของผู้นำอียูที่กรุงบรัสเซลส์ในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจุดสนใจจะอยู่ที่กฎเกณฑ์ใหม่ในการประสานนโยบายการคลังเข้าด้วยกัน โดยนักลงทุนจับตาดูว่ากฎเกณฑ์ใหม่นี้จะนำไปสู่การแก้ไขสนธิสัญญาซึ่งต้องใช้เวลานานหรือไม่ เพราะการแก้ไขสนธิสัญญาจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ