(เพิ่มเติม) "รอมปุย"เผยกลุ่มยูโรโซน 17 ประเทศและ 6 สมาชิกอียูเห็นชอบข้อตกลงชุดใหม่

ข่าวต่างประเทศ Friday December 9, 2011 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจัดขึ้นเป็นวันแรกในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธ.ค. ปรากฎว่า ที่ประชุมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญา

โดยผู้นำกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) เห็นชอบเรื่องหลักการด้านการคลังที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มีการลงโทษประเทศในกลุ่มยูโรโซนที่ทำผิดกฎเรื่องการขาดดุลโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าว ภายหลังจากการเจรจาต่อรองอย่างเข้มข้นนานถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งข้อตกลงเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาอย่างเต็มรูปแบบ นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรป กล่าวภายหลังการประชุมสุดยอดอียูที่เปิดฉากขึ้นเป็นวันแรกในวันพฤหัสบดี และการประชุมได้ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อจนถึงช่วงเช้าวันศุกร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายรอมปุยกล่าวว่า ประเทศสมาชิกยูโรโซน 17 ประเทศ และประเทศสมาชิกอียูนอกกลุ่มยูโรโซนอีก 6 ประเทศ จะเข้ามามีส่วนร่วมในข้อตกลงบนพื้นฐานของสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล ซึ่งจะได้รับการอนุมัติและรับรองรวดเร็วกว่าและง่ายกว่า

นายรอมปุยกล่าวว่า อังกฤษและฮังการีระบุว่า จะไม่เข้าร่วมการดำเนินการตามข้อตกลงด้านการคลัง ขณะที่สาธารณรัฐเช็กและสวีเดนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งหลักการด้านการคลังผ่านข้อตกลงด้านการคลังเช่นนี้ จะได้รับการอนุมัติและรับรองอย่างรวดเร็วและง่ายกว่า เราต่างก็ให้คำมั่นเรื่องกฎการคลังใหม่ที่มีความแข็งแกร่งของยุโรป ซึ่งหมายความว่า ประเทศสมาชิกดึงข้อตกลงดังกล่าวเข้ามาบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศ หรือดำเนินการในลักษณะที่เท่าเทียมกัน ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงกฎเกณฑ์ในเรื่องการดำเนินการที่เกี่ยวกับภาวะขาดดุลที่สูงเกินไปโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ นายรอมปุยยังกล่าวด้วยว่า ภายใต้ข้อตกลงด้านการคลังนี้ ประเทศสมาชิกจะต้องนำเสนอร่างแผนการณ์ด้านงบประมาณต่อคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู

อย่างไรก็ดี สภายุโรปไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลง และนายรอมปุยก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามในเรื่องมาตรการที่จะนำมาใช้ลงโทษกับประเทศที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศสได้กล่าวโทษอังกฤษที่ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาอย่างเต็มรูปแบบได้ในกลุ่มประเทศสมาชิกอียู

นายซาร์โกซีย์กล่าวภายหลังการประชุมว่า อังกฤษได้พยายามที่จะดึงตัวเองออกจากกฎระเบียบด้านการเงิน ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับในเรื่องนี้ได้ เพราะการที่เราไม่มีกฎเกณฑ์ที่เพียงพอนั้น ส่งผลให้เกิดปัญหาดังเช่นที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ