สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับที่ประชุมสหภาพยุโรป (อียู) มีมติใช้บทบัญญัติด้านการคลังเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณและการลุกลามของวิกฤตหนี้ในยูโรโซน
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3370 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3345 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ยับขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5657 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5639 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.520 เยน จากระดับ 77.680 เยน และอ่อนตัวลง 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9235 ฟรังค์ จากระดับ 0.9257 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0216 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0165 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7719 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ประชุมอียูมีมติให้มีการใช้บทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่ โดยกำหนดว่าประเทศสมาชิกควรมียอดขาดดุลงบประมาณต่อปีไม่เกิน 0.5% ของจีดีพี แม้มติดังกล่าวไม่เป็นเอกฉันท์เนื่องจากอังกฤษปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนบทบัญญัตินี้เพราะต้องการคุ้มครองภาคการเงินภายในประเทศของตนเอง
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางเยอรมนีปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 0.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.8% หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการวิกฤตหนี้สาธารณะและชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเยอรมนี
ความคืบหน้าในด้านบวกจากยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโรซึ่งมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 67.7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงท้ายเดือนพ.ย.ที่ระดับ 64.1 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 65.5 จุด
นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 1.6% จากเดือนก.ย. สู่ระดับ 4.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4