สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ประชุมอียูไม่ได้ประกาศใช้มาตรการที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 48.6 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,668.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,660.30-1,718.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 31.002 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 9.35 เซนต์ ปิดที่ 3.464 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 28.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,486.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 23.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 663.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากมูดีส์ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ประเทศสมาชิกอียูในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 เนื่องจากผู้นำอียูแทบจะไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ๆ ในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป และการที่มูดีส์ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ชาติสมาชิกอียู ทำให้นักลงทุนแห่เข้าไปถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในวันจันทร์ และยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดทองคำมากขึ้นด้วย
"เราคาดว่าตลาดทองคำจะยังคงแกว่งตัวในวงกว้างและผันผวนต่อไปอีก" ดาลีกล่าว