ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหลังมูดีส์เตือนทบทวนลดเครดิตประเทศอียู

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 13, 2011 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลที่ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันจากการที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ประเทศสมาชิกอียู

ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3186 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3372 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 1.5580 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5659 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.49% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.900 เยน จากระดับ 77.520 เยน และพุ่งขึ้น 1.38% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9370 ฟรังค์ จากระดับ 0.9242 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 1.43% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0068 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0214 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.63% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7626 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7752 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมูดีส์ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ประเทศสมาชิกอียูในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 หลังจากผู้นำอียูแทบจะไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ๆในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ขณะฟิทช์ เรทติงส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ระบุว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแทบจะไม่ได้ช่วยลดแรงกดดันที่มีต่อรัฐบาลอียู ในการจัดการกับปัญหาหนี้สาธารณะในภูมิภาค โดยเฉพาะเอสแอนด์พีที่ประกาศยืนยันการตัดสินใจว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศยูโรโซนและอียู

ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมอียูมีมติ"บทบัญญัติทางการคลัง" (fiscal compact) ฉบับใหม่ ที่ตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) แทนการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาของอียู ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินยูโรทะยานขึ้นในวันศุกร์ แต่แรงบวกดังกล่าวเริ่มแผ่วลงเมื่อนักลงทุนไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถควบคุมปัญหาหนี้ยุโรปได้ และตลาดปิดร่วงลงในวันจันทร์หลังจาก 3 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำได้ออกมาแสดงมุมมองในด้านลบต่อผลการประชุมในครั้งนี้

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ