ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บมจ.ปตท.(PTT) รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำสัปดาห์นี้(12-16 ธ.ค.)ว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 106-113 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ 98-103 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
โดยที่ประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปมีมติให้ประเทศสมาชิกในกลุ่มยูโรโซนควบคุมการขาดดุลงบประมาณ โดยมียอดขาดดุลไม่เกิน 0.5% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมถึงจัดหาเงินทุนจำนวน 2 แสนล้านยูโร ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อใช้ค้ำประกันในการเข้าช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูโรโซน
ประกอบกับผู้นำสหภาพพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากขึ้นต่ออิหร่านก่อนสิ้นเดือน ม.ค. 55 อีกทั้งประเทศจีนได้จัดตั้งกองทุนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อทำการลงทุนในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของยุโรปจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศให้เครดิตพินิจเชิงลบต่อ 15 ประเทศในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส เป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภายในระยะเวลา 3 เดือน หรือ 90 วัน
ขณะที่ซาอุดีอาระเบียแสดงความพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิต หากความต้องการน้ำมันในตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ควรติดตามการประชุมของ OPEC อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 ธ.ค. 54 ซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มสมาชิก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อราคาน้ำมันในระยะสั้น