ประชาชนหลายพันคนชุมนุมประท้วงตามท้องถนนทั่วอิตาลี เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งลงมติโดยคณะรัฐมนตรีชุดฉุกเฉินของนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี
ในกรุงโรม ผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันนอกรัฐสภาหลังจากผู้นำสหภาพการค้ารายใหญ่เรียกร้องให้แรงงานคัดค้านมาตรการดังกล่าว ซึ่งพวกเขาคิดว่า มาตรการดังกล่าวเข้มงวดเกินไปสำหรับบุคคลในวัยเกษียณและวัยทำงานแต่ไม่เข้มงวดพอสำหรับคนรวย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รัฐยังตรวจพบจดหมายสองฉบับที่บรรจุกระสุนส่งถึงนายกเทศมนตรีกรุงโรมและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม โดยกลุ่มลัทธินิยมอนาธิปไตยในท้องถิ่นได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อจดหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนยังออกมาชุมนุมกันอีกหลายเมือง อาทิเช่น ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประชาชนหลายพันคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนพร้อมร้องตะโกนว่า “ขอความยุติธรรม" ที่เมืองตูริน ทางตอนเหนือของอิตาลี คนงานบริษัทผลิตรถยนต์เฟียตประท้วงหยุดงานนานกว่า 8 ชม. ขณะที่การชุมนุมที่เมืองมิลานส่งผลให้โรงโอเปร่าชื่อดัง ลา สกาลา ต้องยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ต
นางซูซานนา คามูสโส ผู้นำสหภาพการค้า CGIL ซึ่งเป็นสหภาพรายใหญ่ที่สุดของอิตาลี ระบุว่า การประท้วงทั่วทั้งประเทศเกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาลที่จะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการหารือถึงการแก้ไขแผน “ซึ่งไร้ความรับผิดชอบ" ขณะหารือกับตัวแทนของสหภาพแรงงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะที่ สำนักข่าว ANSA รายงานว่า นางเอลสา ฟอร์เนโร รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการออกโรงป้องมาตราการดังกล่าว โดยระบุว่า แผนฏิรูปบำนาญบางแผนอาจจะมีการปรับเปลี่ยน แต่การตัดค่าใช้จ่ายมูลค่ามหาศาลนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อประเทศที่จะกู้ความน่าเชื่อถือในตลาดการเงิน
มาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเสนอต่อรัฐสภาในสัปดาห์นี้และจะลงมติก่อนหน้าเทศกาลคริสต์มาสนั้น มีเป้าหมายเพิ่มเงินมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการลดค่าใช้จ่ายของรัฐและภาษีใหม่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน